วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

Star Martial God Technique Chapter 18 Star Eye

Star Martial God Technique Chapter 18 Star Eye

นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่ 18 เนตรแห่งดวงดารา


บทที่ 18 เนตรแห่งดวงดารา

ใบหน้าของเหลียงเจียนเต็มไปด้วยสีแดงแห่งความโกรธา,เขาไม่คิดเลยว่าหลินหงนั้นจะมีความแข็งแกร่งขนาดนี้,เหนือยิ่งกว่าเขาอีก,เขารู้สึกว่าไม่ได้ด้อยกว่าเหลียงหยูแม้แต่น้อยเลย

ท่าทางของเหลียงเจียนถึงกับมืดมนเลยทีเดียว.


"จะให้ต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งได้เยี่ยงไรกัน?นี่มันเป็นปัญหาของข้า,มันเกี่ยวอะไรกับเจ้าอย่างงั้นรึ?ถ้าจะให้ต่อสุ้แข่งขันล่ะก็,ควรจะเป็นเย่ซิงเหอมากกว่า!" เหลียงเจียนแค่นเสียงพูดอย่างเย็นชาซึ่งเขารู้ว่าเขานั้นไม่อาจเทียบกับหลินหงได้,เช่นนั้นแล้วเขาจึงได้ต้องการที่จะเปลี่ยนเป้าหมาย.



หลินหงหันหน้าของเขากลับไปมองเย่ซิงเหอ.

เย่ซิงเหอยังกำหมัดของเขาแน่น,จ้องมองตรงไปยังเหลียงเจียน,ไม่เชื่อว่าเขานั้นจะด้อยกว่าจึงได้กล่าวออกไป," ตราบเท่าที่ไม่เอาเรื่องราวของตระกูลมาเกี่ยวข้อง,ข้ายินดีที่จะยอมรับการต่อสู้นี้?" ตอนแรกเหลียงหยู,ตอนนี้เหลียงเจียน,ในที่สุดเย่ซิงเหอก็เข้าใจความเป็นจริง,เมื่อเขายิ่งแสดงความอ่อนแอ,ทุกๆคนมีแต่จะสร้างปัญหาให้แก่เขา!

"ดี,ในเมื่อซิงเหอยินยอม,งั้นพวกเราก็เชิญคนอื่นๆ,ดังเช่นอาจารย์มาเป็นสักขีพยาน,ในการต่อสู้ระหว่างเหลียงเจียนและเย่ซิงเหอ,ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ,จะไม่เอาเรื่องของตระกูลมาเกี่ยวข้อง!" หลินหงได้ปล่อยมือของเขาจากเหลียงเจียน,ที่มุมปากของเขายกขึ้นมาเล็กน้อยขณะพูด.

อาจารย์ฉู่เซียน,ขมวดคิ้วย่นเข้าหากัน,เย่ซิงเหอนั้นเป็นศิษย์ของรองอาจารย์ใหญ่ซู,ด้วยสิ่งที่คนของตระกูลจันทราทมิฬนั้นสร้างไม่รู้จักจบสิ้น,ท่ามกลางนักเรียนทั้งหลายจึงเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงได้,สถานบันดาราสวรรค์นั้นได้อนุญาตให้มีการแข่งขันต่อสู้เพื่อสร้างสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนได้,ในเมื่อเย่ซิงเหอเองก็ยินยอม,เขาจึงไม่สามารถที่จะทำอะไรได้,เขาคงทำได้แค่เพียงป้องกันไม่ให้นักเรียนของเขาบาดเจ็บตราบเท่าที่เขานั้นสามารถทำได้.


"เป็นเรื่องอีกแล้วสินะ!" อาจารย์ฉูเซียนจ้องมองไปยังเหลียงเจียน,ด้วยเสียงที่ประชดประชัน.

เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์ฉูเซียน,ภายในดวงตาของเหลียงเจียนนั้นเต็มไปด้วยท่าทางเยาะเย้ย,ด้วยการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระหว่างกันนั้นการได้รับบาดเจ็บเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้,เขาจะต้องทำให้เย่ซิงเหอได้รับบาดเจ็บอย่างหนักแน่นอน.


สายตาทุกคู่ต่างจ้องมองไปยังเหลียงเจียนและเย่ซิงเหอ,ตั้งแต่เย่ซิงเหอนั้นได้กระตุ้นแก้วผนึกวิญญาณแดงเข็มได้หกลูกแล้วนั้น,เหล่านักเรียนก็แทบไม่เห็นเขามาเป็นเวลานาน,พวกเขาไม่รู้เลยว่าระดับพลังยุทธ์ของเย่ซิงเหอนั้นอยู่ในระดับใด.



ก่อนหน้านี้นั้นเย่ซิงเหอ,ไม่ได้มีพื้นฐานใดๆมาก่อน,วรยุทธ์ของเย่ซิงเหอกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว,บางทีไม่ไช่ว่าเขานั้นประสบความสำเร็จไปถึงระดับยุทธ์ชั้นที่ 2 ดินแดนสวรรค์ในเวลาสั้นๆแล้วนะ,แต่เหลียงเจียนทุกคนต่างก็รู้ดีว่า,เขานั้นมีระดับยุทธ์ที่ชั้นที่ 2 ดินแดนสวรรค์นั่นเอง.


"เย่ซิงเหอได้ตกลงยอมรับการประลองกับเหลียงเจียนเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ!"


ทุกๆคนนั้นต่างก็คิดว่าเย่ซิงเหอนั้นต้องพ่ายแพ้เป็นแน่,นอกเหนือจากพลังยุทธ์ที่เอามาเปรียบเทียบกันแล้ว,เย่ซิงเหอยังเป็นผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งดวงดาราซึ่งไม่เหมาะที่จะต่อสู้นัก.


เหลียงเจียนนั้นเต็มไปความเย็นชา,ทันใดนั้นเขาก็เหวี่ยงหมัดออกไปยังเย่ซิงเหอ.


หมัดที่ทรงพลังแหวกอากาศเสียงดัง,มีรูปร่างเหมือนกับเสือตัวใหญ่พุ่งเข้ามา.


รู้สึกได้ว่าเหลียงเจียนนั้นต้องการจัดการเขา,เย่ซิงเหอโคจรพลังแห่งดวงดาราภายในร่างกายของเขา,พร้อมกับปล่อยมือขวาปัดไปยังด้านข้าง.



แบงเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ


หมัดที่รุนแรงของเหลียงเจียนนั้นถูกปัดออกด้วยแขนของเย่ซิงเหอเกิดปราณของพลังแตกกระเซ็นกระจายไปทั่ว.


ในตอนนี้นั้นเย่ซิงเหอสามารถที่จะใช้พลังงานของดวงดาราได้อย่างใจปรารถนา

แม้ว่าการโจมตีของเหลียงเจียนนั้นจะดุร้ายรุนแรง,หลายครั้งเกือบที่จะเข้าปะทะกับเย่ซิงเหอ,แต่ก็ถูกป้องกันได้โดยเย่ซิงเหอ.

ในเวลานี้นั้น,ดวงตาของเย่ซิงเหอนั้นถูกปกคลุมไปด้วยเส้นใยสีทองขยับไปมาต่อเนื่อง,สามารถมองเห็นทุกๆอย่างได้อย่างชัดเจน,ภายใต้เส้นใยสีทองนี้สามารถที่จะพินิจสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดี,จนสามารถที่จะขยายการระวังภัยและเห็นการเคลื่อนไหวของเหลียนเจียนได้,ภาพทุกภาพที่เข้ามายังดวงตาของเขานั้น,มันทำให้ทุกอย่างนั้นเคลื่อนไหวช้าไปหมดกว่าปรกติหลายเท่าเลยทีเดียว.


ความรู้สึกที่แปลกประหลาดของเย่ซิงเหอ,ทันทีทันใดก็สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเหลียนเจียน,ด้วยการมองเห็นหมัดที่กวัดแกว่ง,เขาจึงสามารถเคลื่อนไหวที่เหนือกว่าได้อย่างง่ายดาย,ด้วยศิลปะการต่อสู้ที่ได้เรียนมาก่อนหน้านี้นั้น,กลับโผล่ขึ้นมาภายในใจของเขาทันที.


แบง แบง แบง!


เหลียงเจียนโจมตีเย่ซิงเหอไม่หยุดหย่อนเลย.ในความเห็นของคนที่มุงดูอยู่นั้น,เหลียงเจียนได้กดดันอย่างหนักและบังคับให้เย่ซิงเหอต้องถอยทีละก้าวๆ,รวมทั้งโม่หยูด้วยที่รู้สึกเป็นห่วงเย่ซิงเหอ.



อันซุยหยุนด้วยเหมือนกัน,ที่จ้องตาไม่กระพริบตาเลยทีเดียว.


ด้วยการเห็นการต่อสู้ในตอนนี้นั้น,เหล่าผู้ชมต่างรู้สึกถึงความแตกต่างเป็นอย่างมาก,พวกเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเหลียงเจียนนั้นมีความแข็งแกร่งกว่าฝ่ายตรงข้าม,และรู้สึกได้แน่ชัดว่าเย่ซิงเหอนั้นคงไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะโต้กลับได้,อย่างไรก็ตาม,ไม่ว่าเหลียงเจียนจะโจมตีด้วยความรุนแรงสักเท่าไหร่,งัดศิลปะการต่อสู้ออกมากมากเท่าไหร่,ก็ไม่สามารถที่จะสัมผัสโดนตัวแม้แต่เส้นผมสักเส้นของเย่ซิงเหอได้เลย.


ดูเหมือนว่าหมัดของเหลียงเจียนจะชกเข้าไปยังอากาศ,ส่งผลให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่,เย่ซิงเหอบิดเอวของเขาและก้มลงอย่างรวดเร็ว,พร้อมกับสวนออกไปยังร่างของเหลียงเจียน,ข้อศอกของเขาก็พุ่งออกไป,เกิดเสียงดังสนั่นไปที่ท้องของเหลียงเจียน.



แบงง!

เหลียงเจียนถูกปะทะลอยออกมา,แบง แบง แบง เหมือนกับลูกบอลที่ถูกขว้างออกมา,กระทบพื้นหนึ่งที,สองทีก่อนที่จะกองอยู่ที่พื้น.


เหลียงเจียนกุมไปที่ท้องของเขาถึงกับอ๊วกออกมาทีเดียว,เขารู้สึกว่าลำใส้ของเขาปั่นป่วนจากการโดนโจมตีอย่างรวดเร็วนั่น.


ด้วยการเห็นเหลียงเจียนกองอยู่บนพื้นทำให้ใบหน้าของเหลียงหยูบิดเบี้ยวขึ้นมาทันทีเขาได้นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้,เกี่ยวกับเสาไม้ที่เย่ซิงเหอได้ทำลายลงไป,เส้นเลือดก็ปูดขึ้นมาพร้อมกับปล่อยรังสีแห่งความเย็นชาออกมา.


ด้วยความแข็งแกร่งของเย่ซิงเหอนี้,เขารู้สึกได้ถึงพลังไหลวนไปมาที่จุดดันเถียน,พลุ้งพล่านไม่หยุด.


ด้วยการรวบรวมพลังงานไปที่หมัด,ภายในดวงตาของเย่ซิงเหอนั้นมีร่องรอยเนตรแห่งเทพเจ้าโคจรอยู่,ด้วยความรู้สึกในตอนนี้นี้,เขาสามารถที่จะได้รับพลังเนตรแห่งดวงดาราได้,ซึ่งเป็นพลังที่น่าแปลกใจเป็นอย่างมาก,ด้วยดวงตาของเขานั้นได้มีประกายแสงสว่างสดใสกระพริบไปมาทุกครั้งที่คู่ต่อสู้ของเขานั้นเคลื่อนไหวมันจึงไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของเขาไปได้.


นอกเหนือจากการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามในแต่ละขบวนท่าแล้ว,เขาสามารถที่จะจดจำกระบวนท่าเหล่านั้นได้ด้วย.


นี่อาจจะเป็นพลังอำนาจของเนตรแห่งดวงดาราใช่หรือไม่?

เย่ซิงเหอจำได้เกี่ยวกับหนังสือโบราณเล่มหนึ่งได้บันทึกไว้เกี่ยวกับเนตรแห่งดวงดารา,ว่าหลังจากผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งดวงดาราสามารถฝึกฝนจนชำนาญแล้ว,หากเขาสามารถที่จะทะลวงจุดปราณแห่งเทพได้แล้ว,จะสามารถได้รับพลังจากดวงดาราซึ่งจะสามารถพัฒนาความเข้มแข็งของจิตใจ,จากนั้นเมื่อพัฒนาถึงขีดสุดแล้วจะเริ่มสามารถใช้เนตรแห่งดวงดาราได้.


การฝึกฝนเพื่อที่จะได้รับเนตรแห่งดวงดารานั้น,ไม่ใช่เรื่องง่ายดายอย่างแน่นอน,แต่หากสามารถเบิกเนตรได้แล้ว,จะสามารถกลายมาเป็นคนที่ทรงพลังได้เลย,ด้วยความสามารถของเนตรแห่งดวงดารานั้น,จะทำให้สามารถศึกษาศิลปะการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว,จนเหนือกว่าคนทั่วไปหลายเท่านัก,สามารถที่จะเรียนรู้วิชาลับที่คนปรกติเรียนไม่ได้,ด้วยความสามารถที่หลากหลายนั้นเป็นสิ่งที่ยากจินตนาการทีเดียว,อาจจะกล่าวได้ว่าความสามารถนี้มีอยู่แค่ในตำนานเลยก็ว่าได้.



ในเวลาเดียวกันเขารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก,เย่ซิงเหอรู้สึกเหมือนว่าตัวเขานั้นสงบนิ่งเป็นอย่างมาก,เขาจ้องมองตรงไปยังเหลียงเจียน.


ในเวลานี้ร่างกายของเหลียงเจียนนั้น,ถูกปกคลุมไปด้วยปราณที่แข็งแกร่ง,เป็นพลังของเปลวเพลิงที่ค่อยๆปะทุออกมาโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง,แบง,เกิดระเบิดรอบตัวเขาอย่างต่อเนื่อง.


เสียงดังก้อง!



เปลวเพลิงพวยพุ่งเผาผลาญอย่างมากมายเหลือคณานับ.



เหลียงเจียนค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ,ภายในดวงตาของเขานั้นถูกเติมเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวไม่มีที่สิ้นสุดและรังสีแห่งการฆ่าฟัน.

"เจ้าบังคับข้าเองนะ!" ใบหน้าของเหลียงเจียนนั้นเต็มไปด้วยความมืดมน,,ร่างกายของเขานั้นความร้อนค่อยเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ,และเสื้อคุลมของเขากระพือไปมาเกิดเสียงเสียดสีกับเปลวเพลิงที่เขาปล่อยออกมา.


ด้วยชุดคลุมนั้นทำมาจากเส้นใยทองคำ,เปลวเพลิงจึงไม่สามารถทำอะไรได้,ที่ชุดของเขานั้น,เกิดแสงสว่างโชติช่วงจากเปลวเพลิงที่แพร่ออกมา.




เปลวเพลิงทมิฬเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับสืบทอดมาในตระกูลของเขา,ในจำนวนสามาชิกรุ่นใหม่แต่ละคนนั้น,ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งเปลวเพลิงที่โดดเด่น.



ในที่สุดเหลียงเจียนต้องแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมา,ก่อนหน้านี้นั้นเขาแค่ต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกายเย่ซิงเหอ,แต่เขาก็ไม่คาดคิดเลยว่าเย่ซิงเหอจะมีความสามารถที่คาดไม่ถึงซ่อนไว้,จนทำให้ตัวเขานั้นกลายเป็นตัวตลกซะได้,นั่นจึงทำให้เขาเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมาก.

ข้าจะทำให้เจ้าได้เข้าใจว่าผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งดวงดารานั้นไม่ต่างจากขยะ,มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะต่อต้านผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งเปลวเพลิงได้.


เจ้าบ้าเย่ซิงเหอ,ข้าจะทำให้เจ้าต้องคุกเข้าลงต่อหน้า!ข้าจะจัดการเจ้าอย่างรุนแรงให้มาอยู่แทบเท้าของข้า!

แขนทั้งสองข้างของเหลียงเจียนเริ่มที่จะประทับตรา,เป็นตราแห่งศิลปะแห่งเปลวเพลิงที่จะใช้รวมเข้ากับอากาศ,ทำให้เกิดมวลอากาศลอยอยู่รอบๆมือทั้งสองข้างของเหลียงเจียน,ด้วยศิลปะการประทับตรา,ก่อให้เกิดพลังแห่งเปลวเพลิงที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก.






ที่มาจากhttp://lnmtl.com/novel/star-martial-god-technique

#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย
Author(s)



33 ความคิดเห็น:

  1. ตอนนี้มันส์มากกกกก >< ขอบคุณก้าปปป

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ เบิกเนตรวงเเหวนเเล้ว

    ตอบลบ
  3. สนุกมาก ขอบตุณคับ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ25 กันยายน 2559 เวลา 18:55

    ขอบคุณมากคับ

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณมากคร้าบโผมม
    #ที่แปลให้อ่าน^^

    ตอบลบ
  6. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  7. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  8. ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะครับ
    ติดเลยเรื่องนี้ ^^

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะครับ
    ติดเลยเรื่องนี้ ^^

    ตอบลบ
  10. สนุกมากเป็นกำลังใจให้คนแปลครับบ

    ตอบลบ
  11. สนุกมากเป็นกำลังใจให้คนแปลครับบ

    ตอบลบ
  12. ขอบคุณคับ จะรอออ ~ มันส์มากก

    ตอบลบ
  13. เอาแล้วไง....เบิกเนต...อจันทรา....

    ตอบลบ
  14. กำลังสนุกเลยครับขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  15. ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง กราบบบบบ

    ตอบลบ
  16. ท่านผู้ชม : นายน้อยเย่ ท่านฝึกแต่ใดมาจึงเก่งรวดเร็วยิ่งกว่าดอกเห็ดผุดซะอีก
    เย่ ชิงเหอ : ข้ามิมีเคล็ดลับอันใดดอก เพียงแต่อ่านหนังสือไม่หลับไม่นอนก็เท่านั้นเอง

    ตอบลบ
  17. ขอบคุณงานแปลดีดีคับ ^_^

    ตอบลบ
  18. มีเบิกเนตรด้วยรึเนี้ย

    ตอบลบ