Star Martial God Technique Chapter 299 Martial Goddess Tian Yin

Star Martial God Technique Chapter 299 Martial Goddess Tian Yin

นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่  299 เทพธิดาเทียนหยิน

บทที่ 299 เทพธิดาเทียนหยิน

อันซุยหยุนที่กำลังเดินไปด้านหน้าหยุดอยู่ชั่วขณะ.

อย่างไรก็ตามนางเองก็ไม่ได้หันหน้ากลับมาเลย,หรือแม้แต่ชำเลืองมายังเย่ซิงเหอ,ก่อนที่นางจะเดินต่อไปด้านหน้าต่อ.

ราวกับว่า,นางไม่รู้จักเย่ซิงเหอแม้แต่น้อย,ราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงดังกล่าวอีกด้วย.

จ้องมองไปยังแผ่นหลังของอันซุยหยุนที่จากไป,ภายในใจของเย่ซิงเหอถึงกับสั่นไหวอย่างรุนแรง,ภายในในจิตใจของเขาอดไม่ได้เลยที่จะรู้สึกเจ็บปวด,ด้วยอันซุยหยุนที่เป็นอยู่นี้,ไม่ได้เป็นเหมือนกับท่าทางที่นางเคยเป็น,ทำไมอันซุยหยุนเห็นตัวเขาแล้ว,รู้สึกราวกับว่าเขาเป็นเหมือนดั่งคนแปลกหน้าล่ะ.

"ซุยหยุน,เจ้าก็อยู่ที่นีหรือ?"เซี่ยหยุนหนิงรู้สึกมีความสุข,ต้องการที่จะเข้าไปทักทายอันซุยหยุน.

อย่างไรก็ตามเย่ซิงเหอก็ได้รั้งแขนของเซี่ยหยุนหนิงเอาไว้ไม่ให้เข้าไป.

เซี่ยหยุนหนิงรั้งรอไม่ก้าวต่อไป,จ้องมองเย่ซิงเหอด้วยความสงสัย,นางเองก็รู้สึกเสียใจต่ออันซุยหยุนอยู่เต็มหัวใจ,ก่อนหน้านี้มีเหตุที่ทำให้อันซุยหยุนเข้าใจผิดกันอยู่,ยังไม่มีเวลาที่จะอธิบายกับอันซุยหยุนเลย ซึ่งนางกำลังเดินจากไป..

นางไม่เข้าใจว่า,ยังมีเรื่องอื่นระหว่างเย่ซิงเหอกับอันซุยหยุนอีกรึไม่.

เย่ซิงเหอส่ายหน้าไปมาเพื่อบอกกล่าวเซี่ยหยุนหนิง,ความรู้สึกที่อยู่ภายในต่ออันซุยหยุนตอนนี้มันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้.

อีกมุมหนึ่ง,อันซุยหยุนเองก็เต็มไปด้วยความเศร้านางค่อยๆเดินจากไปอย่างเงียบงัน.

หยุนหลิงจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอและเซี่ยหยุนหนิง,สายตาของนางนั้นมีความรู้สึกว่าควรจะบอกล่าวกับพวกเขาทั้งสอง "มันอาจจะไม่ใช่สถานที่เหมาะที่จะกล่าวอะไรออกมานัก,เรื่องบางอย่างอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเจ้าเห็นก็เป็นได้!"

ได้ยินคำพูดของหยุนหลิงแล้ว,เย่ซิงเหอก็พยักหน้า.

เซี่ยหยุนหนิงเองก็ได้แต่เงียบ.

อันซุยหยุนได้เข้าร่วมตำหนักโย่วหลานแล้ว,สิ่งที่นางเป็นนั้นได้แตกต่างจากเมื่อก่อนมากเลยรึ?

แม้ว่าเย่ซิงเหอจะต้องการที่จะฉุดรั้งอันซุยหยุนเอาไว้เป็นอย่างมาก,เขามีคำพูดมากมายที่ต้องการที่จะบอก,ทว่าเขากลับทำได้แค่มองอันซุยหยุนเดินจากไป,เย่ซิงเหอไม่เข้าใจเลยว่า,อาจจะเกี่ยวข้องกับการที่นางเข้าร่วมตำหนักโย่วหลาน,ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้มีไม่มากนัก,มีแต่จะนำปัญหามาให้กับอันซุยหยุน,เย่ซิงเหอเองก็ไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดเรื่องเช่นนั้นแน่.

หยุนหลิงจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอและเซี่ยหยุนหนิง,บนใบหน้าของนางเองก็รู้สึกเป็นกังวลไปด้วยเช่นกัน,ชั่วระยะเวลาต่อมาก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า"พวกเจ้าตามข้ามาเถอะ,พวกเจ้าก็น่าจะรู้ดี,ตอนนี้อันซุยหยุนได้กลายเป็นธิดาเทพของตำหนักโย่วหลานแล้ว,สถานะนั้นสูงส่งนัก,ไม่ใช่คนที่พวกเจ้าจะสามารถรู้จักได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว!"

ได้ยินคำพูดของหยุนหลิงแล้ว,ภายในใจของเย่ซิงเหอนั้นเต็มไปด้วยคำถามมากมาย,เขาไม่สามารถอธิบายความเข้าใจของเขาได้เลย,ทำไมอันซุยหยุนถึงต้องการเป็นธิดาเทพของตำหนักโย่วหลาน,เรื่องที่ผ่านมานั้น,ควมจริงแล้วเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่?

เซี่ยหยุนหนิงอ้าปากค้าง,ใบหน้าของนางตื่นตกใจเป็นอย่างมาก,ไม่เพียงตำหนักโย่วหลานที่นางเคยได้ยิน,หากแต่สถานะธิดาเทพของอันซุยหยุนนั้น,ทำให้ภายในใจของนางเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย.

ภายใต้การนำทางของหยุนหลิง,พวกเขาได้ผ่านทางเดินเข้ามา,ก่อนที่จะเข้ามายังห้องโถงที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก.

ภายในห้องโถงแห่งนี้ดูวิจิตรตระการตายิ่งนัก,ที่ด้านหน้านั้นเป็นผ้าม่านสีมุกที่หรูหราประดับประดากั้นคนที่อยู่ด้านในเอาไว้,ซึ่งสามารถมองเห็นหญิงสาวที่ดูสง่าน่าเกรงขามได้อย่างเลือนลาง,เห็นบางส่วนของนางที่นอนพนักอยู่บนเตียง,แม้ว่าจะมีผ้าม่านปกปิดเจ้าของร่างเอาไว้อยู่,ทว่าก็สามารถมองเห็นเรียวขาที่งามสง่ายืนออกมา,ที่ขยับไปมาอยู่เป็นพักๆ.

แม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นฝ่ายตรงข้ามได้ทั้งหมด,หากแต่สามารถจะบอกได้เลยว่าหญิงสาวคนนี้ต้องสวยงามทรงเสน่ห์เป็นแน่.

แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่ทำให้เย่ซิงเหอถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจ,เขาไม่สามารถสัมผัสกลิ่นอายของบุคคลดังกล่าวได้แม้แต่เศษเสี้ยว.

บุคคลที่อยู่หลังผ้าม่านสีมุกน่าจะเป็นแทบธิดาเทียนหยิน,เห็นอย่างชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ได้อ่อนแออย่างแน่นอน, ความแข็งแกร่งของนางนั้นอาจะลึกล้ำเกินกว่าที่จะสัมผัสได้,เย่ซิงเหอเริ่มรู้สึกว่า,เทพธิดาเทียนหยินคนนี้,อาจจะเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกับจักรพรรดิเทวะก็เป็นได้.

ที่ด้านหน้าผ้าม่านไข่มุกนั่น,มีหญิงสาวสองคนที่นั่งคุกเขาอยู่,เป็นหญิงสาวที่พวกเขาเพิ่งเจอมา,อันซุยหยุน.

เปรียบกับอันซุยหยุนอย่างที่เคยเป็น,นางดูจะผอมเพรียวบางซะจนน่าสงสาร.

นางก้มหน้า,ไม่แม้แต่หันมามามองเย่ซิงเหอ,ที่ตอนนี้ได้เพียงแค่มองผมดำขลับด้านหลังที่ทิ้งลงมา,หากแต่ยังปลิวไสวสวยงามเช่นเดิม.

"ท่านจ้าวตำหนัก,คนคนที่ท่านสั่งการได้มาถึงแล้ว!"หยุนหลิงนั่งทิ้งขาข้างหนึ่งลงคุกเข่าพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความเคารพ.

เย่ซิงเหอและเซี่ยหยุนหนิงเองก็โน้มตัวลงคารวะเล็กน้อย.

หญิงสาวด้านหลังผ้าม่านสีมุกค่อยๆขยับกาย,จ้องมองลงมายังพวกเขา,พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยเสียงงัวเงียอย่างมีเสน่ห์พร้อมว่า"งั้นพวกเจ้าทั้งสองคือเย่ซิงเหอและเซี่ยหยุนหนิงอย่างงั้นรึ?"

ได้ยินเสียงดังกล่าว,ภายในใจของเย่ซิงเหอนั้นก็สั่นไหวเล็กน้อย,ในเมื่อเขาคิดว่าเทพธิดาเทียนหยินนั้นสง่างามและทรงพลังเป็นยิ่งกว่าสุดยอดผู้เยี่ยมยุทธ์,ไม่คาดคิดจริงๆเลยว่าเทพธิดาเทียนหยินกับกลายเป็นผู้หญิงเช่นนี้,มันได้ทำลายความคาดหวังที่อยู่ภายในใจของเขาอยู่เล็กน้อย

"เจ้าค่ะ,ท่านจ้าวตำหนัก,"หยุนหลิงตอบรับ.

ได้ยินคำพูดของหยุนหลิงแล้ว,ใบหน้าของอันซุยหยุนก็ยิ่งก้มหน้าลงต่ำ.

ในเวลาเดียวกันนี้,ภายในใจของอันซุยหยุนเต็มไปด้วยความกะวนกระวายใจ,นางไม่รู้ทำไมเย่ซิงเหอและเซี่ยหยุนหนิงถึงได้เดินทางมายังที่นี่,,ทำให้ภายในใจของนางนั้นมันล้นไปด้วยความรู้สึกที่อันตรายปนอยู่มากมาย,เย่ซิงเหอและเซี่ยหยุนหนิงควรจะต้องรีบไปจากที่นี่ไปโดยเร็ว.

แม้ว่าเทพธิดาเทียนหยินดูเหมือนว่าจะไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องดังกล่าว,ด้วยท่าทางที่แช่มช้อยและยั่วยวนเต็มไปด้วยเสน่ห์นั้น,ก็ไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วเทพธิดาเทียนหยินนั้นเป็นคนเช่นใด.

ก่อนหน้านี้เทพธิดาเทียนหยินไม่เคยอนุญาตให้ผู้ชายเข้ามาในตำหนักโดยเด็กขาด,เย่ซิงเหอกลับกลายเป็นข้อยกเว้น,ด้วยเหตุดังกล่าวนี้,นางจึงคิดว่าต้องเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอน.

"ยินดีที่ได้พบเทพธิดาเทียนหยิน!"เย่ซิงเหอยกมือคารวะไปด้านหน้าพลางกล่าวว่า"ไม่รุ้ว่าท่านจ้าวตำหนักเรียกตัวพวกเรามาที่นี่,มีสิ่งใดจะชี้แนะอย่างงั้นรึ?"

เย่ซิงเหอนั้นแสดงท่าทางเรียบเฉยไม่จองหองหรือว่าสุภาพ,ยังคงสงวนท่าทีอยู่.

เทพธิดาเทียนหยินจ้องมองลงมายังเย่ซิงเหอพลางกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,"ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเข้าไปในตำหนักหลวง,และต่อสู้กับจักรพรรดิเทวะอย่างงั้นรึ?"

"ถุกแล้ว!"เย่ซิงเหอพยักหน้า,จากการคาดเดาของเขา,เทพธิดาเทียนหยินต้องการรู้เกี่ยวกับจักรพรรดิเทวะ,ถึงได้เรียกตัวเขามาที่แห่งนี้.

"ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเจ้า,กลับยังมีชีวิตรอดอกมาจากพระราชวังหลวงช่างคาดไม่ถึงนัก!"เทพธิดาเทียนหยินกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.

"พวกเราเพียงโชคดีที่หนีรอดออกมาได้!"เย่ซิงเหอกล่าวอธิบาย.

"คนที่เดินทางไปกับเจ้านั้น,นอกเหนือจากบรรพชนเฒ่าอู๋,อีกคนคือใครกัน?"ภายในดวงตาของเทพธิดาเทียนหยินนั้น,มีประกายแสงที่ลุกวาวขึ้นมาทันที.

คนที่เทพธิดาเทียนหยินกล่าวถึงคงจะต้องเป็นซ่างกวนซูอานแน่.

"เป็นเพื่อนของข้า,ส่วนนามของนางนั้น,ขอให้ท่านจ้าวตำหนักอภัยด้วย,ข้าคงไม่สามารถเอ่ยออกไปได้."เย่ซิงเหอกล่าว.

บนใบหน้าของเทพธิดาเทียนหยินปรากฏปราณที่ดุร้ายก่อตัวขึ้น,ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า"เจ้าควรที่จะรับรู้นะหากว่าขัดขืนล่วงเกินตำหนักโย่วหลานของข้าล่ะก็,ผลที่ได้จะออกมาเป็นเช่นใด?"

เย่ซิงเหอรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขานั้นถูกจับเอาไว้ราวกับว่าเข็มนับพันกำลังทิ่มแทงเข้ามา,เป็นพลังกดดันที่รุนแรงเป็นอย่างมาก,ทำให้เขากลืนน้ำลายอันเย็นเยือบลงไป,จนแทบจะกระอักออกมาเป็นโลหิต,เขาที่ยืนตัวแข็ง,ก่อนที่จะยกมือคารวะไปด้านหน้า"ครั้งหนึ่งนั้นข้าได้รับปากนางว่า,จะไม่เปิดเผยชื่อของนางโดยเด็ดขาด,ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถบอกกล่าวได้,ถึงแม้ว่าจ้าวตำหนักจะสังหารข้า,ข้าคงไม่สามารถเปิดเผยเรื่องใดๆของนางออกไปได้."

เทพธิดาเทียนหยินแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา,"ดูเหมือนว่าเจ้าเองจะมีความแข็งแกร่งทางวิญญาณอยู่เหมือนกัน."

ได้ยินคำพูดเช่นนั้นของเทพธิดาเทียนหยินแล้ว,เย่ซิงเหอได้แต่คิดอยู่ข้างใน,ทันใดนั้น,ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น,ด้วยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวนั่น,ราวกับกดทับ,พร้อมจะบดขยี้เขาให้หายไป,เย่ซิงเหอคุกเขาลงกลับพื้นไร้ซึ่งเรียวแรงที่จะต่อต้านถูกกดให้คุกเข่าลงกระแทกไปกับพื้นเสียงดังสนั่น,พื้นบริเวณดังกล่าวแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงเสี่ยงและเกิดรอยแยกใยแมงมุมเป็นทางยาวออกไป.

"ข้าจะดูซิว่าจริงๆแล้ว,เจ้าจะทนมันได้สักกี่น้ำ!"

ที่มาจากhttp://lnmtl.com/novel/star-martial-god-technique

web จีน  http://www.07dcr.com/book/xingwushenjue/

#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย

Author(s)

Mad Snail
"ทากพิศดาร"(ฟาเปียว เตอะ วอหนิว) ผู้ประพันธ์

https://www.facebook.com/shareebookandducumentfree/