วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559

Star Martial God Technique Chapter 5 Ancient Tablet

Star Martial God Technique Chapter 5 Ancient Tablet

นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่ 5 ศิลาจารึกโบราณ


บทที่ 5 ศิลาจารึกโบราณ

An Xueyun’s talent caused quite a stir among the students. Even in the eyes of Liang Yu a deep emotion of jealousy surfaced.
ด้วยพรสวรรค์ของอันซุยหยุนเป็นเหตุให้บรรดานักเรียนนั้นตกตะลึงไปตามๆกัน.แม้แต่สายตาของเหลี่ยงหยูยังแสดงอาการอิจจาลึกลงไปข้างในจนแสดงออกทางสีหน้า.
Five red soul crystals result made everyone feel inferior.
ห้าแก้วผลึกวิญญาณแดงทำให้ทุกคนด้อยกว่าในทันที.

Looking at An Xueyun’s back Ye xinghe showed a look of envy in his eyes.
ด้วยการจ้องมองไปที่ ข้างหลังอันซุยหยุน เย่ซิงเหอก็แสดงท่าทางอิจฉาในสายตาเหมือนกัน.

If he can have that type of talent, then how good would be his life?
ถ้าเขานั้นสามารถมีพรสวรรค์เช่นนั้นได้,ดังนั้นคงจะเป็นสิ่งที่ดีในชีวิตเขาบ้าง?

But he understands that it is only wishful thinking, he instead looked at the seven crystals, what would he do if his talent his poor.
แต่เขาก็เข้าใจได้ว่านั่นเป็นแค่เพียงความคิดปรารถนาเท่านั้น,เขาจ้องมองลงไปยังแก้วผลึกทั้งเจ็ดแทน,เขาจะทำอย่างได้ถ้าพรสวรรค์ของเขานั้นย่ำแย่.


All the master sitting in the stage looked at each other, seeing Vice-Headmaster Xu smiling they were feeling quite depressed. As per their estimation, after finding such an outstanding talent, he will definitely not give her to anyone else. Although Vice-Headmaster has not received any disciples in more than 10 years, but seeing his smiling face they can obviously determine that he will not concede this time.
อาจารย์ทุกคนนั้นนั่งบนเวทีต่างจ้องมองกันและกัน.ด้วยการเฝ้ามองรองอาจารย์ใหญ่ซูกำลังยิ้มอยู่พวกเขารู้สึกหดหู่ทีเดียว.ตามที่พวกเขาได้คาดการณ์ไว้นั้น,หลังจากที่ได้ค้นพบคนที่มีความสามารถโดดเด่นเช่นนี้แล้ว,พวกเขาคงจะไม่เจอใครอย่างเธอได้อย่างแน่นอน.แม้ว่าท่านรองอาจารย์ใหญ่นั้นจะไม่ได้รับศิษย์มานานมากกว่าสิบปีแล้ว,แต่เมื่อเห็นเขานั้นยิ้มบนใบหน้าแล้วพวกเขาคงจะสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเขานั้นคงจะไม่ทำอย่างนั้นอีกในเวลานี้.

The first row’s eight children had been tested. Now everyone looked at students standing in the second row.
ข้างหน้านักเรียนแถวที่แปดเข้ารับการทดสอบได้.ตอนนี้ทุกๆคนจ้องมองไปยังนักเรียนที่อยู่แถวถัดมา.


“Two soul crystal sensing!!”
"สองการรับรู้แก้วผลึกวิญญาณ!!"

“Two soul crystal sensing!!”
"สองการรับรู้แก้วผลึกวิญญาณ!!"


After the first row more than 20 students had been tested, among them were other noble family and city merchants sons, but a majority of them were able to sense only two soul crystals, the students who could sense three were only two.
หลังจากแถวแรกแล้วมีมากกว่า 20 ที่ได้ทำการทดสอบแล้ว,ท่ามกลางพวกเขานั้นจะเป็นครอบครัวชนชั้นสูงอื่นๆและลูกชายเมืองพ่อค้า,แต่ส่วนใหญ่ในพวกเขานั้นสามารถรับรู้ได้แค่เพียงสองแก้วผลึกวิญญาณ,นักเรียนที่สามารถรับรู้ได้ถึงสามแก้วผลึกวิญญาณนั้นมีแค่เพียงสองคนเท่านั้น.


Noble families have strong ancestor blood running in their veins, and therefore they always perform better than other lesser families or merchants sons. If they can get in Heavenly star Academy it means they have above average talent, however if the comparison is done with noble family’s sons than a huge gap is found.
โลหิตของบรรพชนที่แข็งแกร่งของตระกูลชนชั้นสูงที่อยู่ในสายเลือดนั้นแข็งแกร่งยิ่ง,และนอกจากนี้พวกเขายังได้รับการฝึกฝนอย่างดีโดยตลอดเหนือยิ่งกว่าตระกูลรองหรือตระกูลพ่อค้า.ถ้าพวกเขานั้นอยู่ในสถาบันดาราสวรรค์แล้วมันก็เหมือนว่าพวกเขานั้นมีพรสวรรค์โดยเฉลี่ยมากกว่าทั่วไป,แต่ถึงอย่างนั้นถ้าการเปรียบเทียบโดยรวมแล้วบุตรจากตระกูลของชนชั้นสูงก็มีช่องว่างใหญ่มากยิ่งนัก.

Now all eyes fell upon the last row students, remaining eight common or subservient family sons.
ตอนนี้ทุกสายตาต่างจ้องไปที่แถวของนักเรียนแถวสุดท้าย,ที่เป็นคนชนชั้นทั่วไปหรือตระกูลของคนรับใช้นั่นเอง


These students of common descent had been admitted from every corner of the province. During the admission of Heavenly star academy, thousands of noble family and merchant’s son come to compete, however during the admission quota for common people tens of thousands of children come to participate.
เหล่านักเรียนที่สืบเชื้อสายทั่วไปนั้นได้รับการยอมรับมาจากทั่วทุกมุมของประเทศ.ระหว่างการรับเข้าสถาบันดาราสวรรค์นั้น,มีพันกว่าคนของตระกูลชนชั้นสูงและตระกูลพ่อค้า,แต่ถึงอย่างั้นระหว่างการคัดเลือกเข้าสถาบันส่วนแบ่งของคนสามัญนั้นจะเป็นสิบคนในพันคนจากนักเรียนที่เข้าร่วมการทดสอบ


This is Great Zou Empire’s national policy, through academy, they have given the children of common people an opportunity of promotion. Although these students can’t have high official positions in the empire, but having graduated from the academy gives them the chance to join army or city guards. It is a chance to change their destiny.
นโยบายของประเทศอาณาจักรซู ที่ยิ่งใหญ่นี้,ได้ให้สถาบันการศึกษา,พวกเขาสามารถที่จะเปิดโอกาสให้กับประชาชนทั่วไปมีโอกาสที่จะเลือนระดับ.แม้ว่าเหล่านักเรียนเหล่านี้จะไม่สามารถได้รับตำแหน่งข้าราชการระดับสูงในอาณาจักรได้,แต่ว่าถ้าจบการศึกษาจากสถาบันนี้ล่ะก็ จะทำให้พวกเขานั้นมีโอกาสที่จะเข้าร่วมกองทัพและองค์รักษ์ประจำเมือง.ซึ่งก็เป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของพวกเขาได้เช่นกัน.

Ye Xinghe is one of them who wants to change their destiny, he had been admitted in Heavenly Star Academy by working hard and diligently. However out of all eight students remaining, his talent was the worst
เย่ซิงเหอก็เป็นหนึ่งในพวกเขาที่ต้องการที่จะเปลี่ยนโชคชะตา,เขาได้รับการยอมรับให้เขาเรียนที่สถาบันดาราสวรรค์ด้วยการทำงานอย่างหนักและขยันขันแข็ง.แต่ถึงกระนั้นนักเรียนแปดคนจากทั้งหมดที่ยังคงอยู่,พรสวรรค์ของเขานั้นย่ำแย่ที่สุด.

“Come On” Lin Hong patted Ye Xinghe’s shoulder.
"เอาเลย" หลินหงตบไปที่ไหล่ของเย่ซิงเหอ.

Lin Hong turned and started to sense the first of the red soul crystal.
หลินหงหันกลับและเริ่มที่จะทดสอบการรับรู้ถึงแก้วผลึกแดงอันแรก.


Shortly after a glow of red, orange and bright yellow was shining in front of him. When three soul crystal had shone Lin Hong slowly closed his hand.
ไม่นานหลังจากนั้นสีแดงก็สว่างออกมา.สีส้มและสีเหลืองก็สว่างสดใสฉายแสงต่อหน้าของเขา.ได้สามแก้วผลึกวิญญาณที่สว่างสะไวหลินหงค่อยๆยกมือของเขาออกมา.


“I was able to unexpectedly sense three soul crystals.”
"ข้าไม่สามารถที่จะคาดคิดเลยว่าจะรับรู้ได้ถึงสามแก้วผลึกวิญญาณ."

All students couldn’t help but give Lin Hong looks of admiration. As a subservient family member, his result was very astonishing. Over the year, students who can sense three crystals from common students have been very few.
นักเรียนทั้งหมดอดที่จะจ้องมองไปที่หลินหงด้วยความยินดี.ขณะที่เหล่าสมาชิกตระกูลคนรับใช้นั้น,ผลลัพธ์ของเขานั้นมีผลที่น่าอัศจรรย์ใจมาก.หลายปีมาแล้ว,เหล่านักเรียนที่รับรู้แก้วผลึกได้ถึงสามลูกจากตระกูลคนรับใช้นั้นมีน้อยมากๆ


Several other students had also completed their test, but their result was far from satisfactory. Two of the common decent students could only sense one red soul crystal, their complexion was white, deep in their eyes were the sign of despair and dying embers. Both of them have not passed the exam, they had arrived till here with great difficulty and hard work, but they didn’t have the destiny to advance from here.
นักเรียนคนอื่นๆหลายคนได้ทำการทดสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว,แต่ผลลัพธ์ของพวกเขานั้นห่างไกลจากคำว่าพึงพอใจ.สองคนในนักเรียนจากตระกูลคนรับใช้นั้นรับรู้ได้แค่เพียงหนึ่งแก้วผลึกแดง,ด้วยคุณลักษณะแค่เพียงจางๆ,ลึกเข้าไปข้างในของสายตาของพวกเขานั้นมีสัญญาณแห่งความผิดหวังเหมือนกับไม้ตายซาก,พวกเขาทั้งคู่นั้นไม่สามารถที่จะผ่านการทดสอบนี้ได้.พวกเขานั้นได้เดินทางมาถึงจุดนี้ด้วยความยากลำบากและการทำงานอย่างหนัก,แต่พวกเขากลับไม่มีโชคชะตาที่พิเศษจากที่นี่แล้ว.

After everyone had been tested, it was Ye Xinghe’s chance.
หลังจากที่ทุกๆคนได้ทดสอบเรียบร้อยแล้ว,ก็มาถึงโอกาสของเย่ซิงเหอ.

Ye Xinghe placed his hand above soul crystals and tried to sense them as the teacher had said.
เย่ซิงเหอวางมือของเขาไว้เหนือแก้วผลึกวิญญาณและพยายามที่จะรู้สึกถึงมันเหมือนกับที่ครูฝึกได้พูด.

However no resonance could be found in any of the soul crystals.
อย่างไรก็ตามไม่มีผลใดๆที่เกิดขึ้นกับแก้วผลึกวิญญาณ.

What was this?
นี่คืออะไร?

Why is there no response?
ทำไมถึงไม่มีปฏิกิริยาใดเลยล่ะ?

Ye Xinghe started feeling anxious and cold sweat could be seen on his forehead.
เย่ซิงเหอเริ่มรู้สึกกระวนกระวายและทำให้เหงื่อออกมาเต็มหน้าของเขาเลยทีเดียว.


Every student was looking at Ye Xinghe because he was last, however, no glow could be seen below his hand. Everyone thought he still hasn’t started and was therefore waiting for him to start.
นักเรียนทุกคนต่างจ้องมองไปที่เย่ซิงเหอเพราะคิดว่าเขานั้นเป็นคนสุดท้าย,แต่ถึงกระนั้น,ไม่มีแสงใดเลยที่สามารถมองเห็นได้ใต้มือของเขา.ทุกคนต่างคิดว่าเขานั้นยังไม่เริ่มทดสอบและดังนั้นจึงได้รอเขานั้นเริ่มทดสอบอยู่.

Everyone stare made Ye Xinghe’s situation more difficult, his nervousness started increasing, Whats the matter? why is nothing happening? Why is there no response from even one soul crystal?
ทุกๆคนต่างจ้องไปที่สถานะการณ์ของเย่ซิงเหอที่กำลังลำบากเป็นอย่างมาก,ความตื่นเต้นของเราเริ่มที่จะมีมากขึ้น,มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?ทำไมถึงไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น?ทำไมไม่มีปฏิกิริยาจากแก้วผลึกวิญญาณแม้สักอันเลยล่ะ?

Another minute passed by, but still no glow could be found.
อีกนาทีได้ผ่านไปแล้ว,แต่ก็ยังไม่มีแสงใดๆที่จะพบได้.

The whole hall was deathly still.
ทั่วทั้งห้องยังคงเงียบ.

Couldn’t even sense one crystal, Was this real?
ไม่สามารถรับรู้ได้แม้แต่หนึ่งแก้วผลึก,นี่คือความจริงอย่างนั้นรึ?

Suddenly Liang Yu started laughing ” You really are a waste, you can’t even inspire one crystal to glow for you, Ha Ha Ha really made me laugh.!!”
ทันใดนั้นเหลียงหยูที่ชำเลืองมองอยู่กำลังหัวเราะออกมา"เจ้านี่มันช่างใช้การไม่ได้จริงๆ,เขาไม่สามารถแม้แต่จุดประกายแสงออกมาแม้แต่หนึ่งลูก,ฮ่า ฮ่า ฮ่า มันน่าขำซะจริงๆ.!!"


Teachers on stage also looked at each other with blank dismay, a situation like this has never happened, before there was no one who couldn’t even sense one soul crystal. How could a person who can’t even sense one crystal was admitted in Heavenly Star Academy?
ครูฝึกที่อยู่บนเวทีก็จ้องหน้าซึ่งกันและกันด้วยความงงงวยด้วยความตกใจ,ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน,ก่อนหน้านี้นั้นไม่เคยมีใครเลยที่ไม่สามารถที่จะรับรู้ได้แม้แต่หนึ่งแก้วผลึกวิญญาณ.จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีคนที่ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงแก้วผลึกวิญญาณได้สามารถได้รับเข้าเรียนในสถาบันดาราสวรรค์นี้กัน?.

Ye Xinghe tightly clenched his left hand into a fist, he does not understand what is happening. What’s the matter, why can’t I even sense one crystal.
เย่ซิงเหอกำหมัดข้างซ้ายของเขาแน่,เขาไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น.นี่มันเรื่องอะไรกัน,ทำไมข้าไม่สามารถรับรู้ได้แม้แต่หนึ่งแก้วผลึก.

Nearby, Lin Hong seeing Ye Xinghe facial expressions had a sinking feeling, he said in a low voice “You do not need to mind what other people are saying, keep your attention on the soul crystals below your hand. Also, you were too anxious, first calm your heart and then try again”
ใกล้ๆนั้น,หลินหงจ้องมองไปที่ใบหน้าที่ใบหน้าของเย่ซิงเหอที่ห่อเหี่ยว,เขากล่าวออกมาด้วยเสียงโทนต่ำ"เจ้าอย่าได้สนใจในสิ่งที่คนอื่นพูด,จงมุ่งเน้นสมาธิไปยังแก้วผลึกวิญญาณที่อยู่ใต้มือของเจ้า.เจ้าตื่นเต้นมากเกินไป,สิ่งแรกจงสงบใจของเจ้าและลองมันใหม่อีกครั้ง"
Hearing Lin Hong words, Ye Xinghe looked towards him with a grateful look. when everyone was ridiculing him then Lin Hong spoke on his behalf.
ด้วยการได้ยินคำพูดของหลินหง,เย่ซิงเหอจ้องมองไปที่เขาด้วยสายตาที่ซาบซึ้ง.เมื่อทุกๆค้นล้วนแล้วแต่หัวเราะเยาะเขาหากแต่ยังมีหลินหงที่พูดให้กำลังใจเขาอยู่.

I do not believe that I am a waste.
ข้าไม่เชื่อว่าตัวข้านั้นจะเป็นคนไร้ประโยชน์

I had worked so hard and diligently, finally was able to enter Heavenly star Academy, can such hard work be for nothing?
ข้าได้ทำงานอย่างหนักด้วยความขยันขันแข็ง,ในที่สุดก็สามารถที่จะเข้ามายังสถาบันดาราสวรรค์,ด้วยการทำงานอย่างหนักเช่นนั้นมันไม่มีอะไรเลยอย่างนั้นรึ?

If I were expelled from Heavenly star Academy, then what about my parents and clansmen’s hope?
ถ้าข้าจะต้องโดนไล่ออกจากสถาบันดาราสวรรค์,เช่นนั้นแล้วความหวังของบิดามารดาและตระกูลของข้าล่ะ?

Ye Xinghe closed his eyes, no longer paying attention to anyone in hall anymore, slowly his heart started to relax, an indiscernible feeling suddenly passed in his heart. Ye Xinghe felt as if he have again arrived in the forest of his dream, everything was very serene and quiet, he fully calmed down and basked on the quiet of the forest.
เย่ซิงเหอปิดตาของเขา,มุ่งเน้นความสนใจไม่ใส่ใจคนในห้องอื่นๆอีกต่อไป.หัวใจของเขานั้นค่อยๆผ่อนคลาย,ด้วยความรู้สึกที่มองไม่เห็นนั้นก็ผ่านเข้ามายังหัวใจของเขาในทันที.เย่ซิงเหอรู้สึกราวกับว่าเขานั้นได้เดินทางมาถึงป่าในความฝันของเขาอีกครั้งหนึ่งแล้ว,ทุกๆสิ่งนั้นเยือกเย็นและเงียบสงบ,เขาเริ่มที่จะมีสมาธิอย่างสมบูรณ์และเข้าไปยังป่าแห่งความสงบเงียบ.

This time, Ye Xinghe completely immersed himself in that mysterious feeling without caring for anyone else.
เวลานั้น,เย่ซิงเหอนั้นจมดิ่งเข้าไปในความรู้สึกที่ลึกลับโดยไร้ซึ่งการสนใจใครคนอื่น.

“Even if you try again, what result can you show? Someone who can’t even sense one soul crystal is nothing but a waste.” Liang Yu sneered in mockery.
"ถึงแม้ว่าจะลองอีกครั้ง,จะมีผลทดสอบอะไรอึกล่ะ?คนที่ไม่สามารถจะรับรู้ได้แม้แต่เพียงแก้วผลึกลูกเดียวมันมีแต่พวกไร้ประโยชน์เท่านั้น"เหลียงหยู่เยาะเย้ยล้อเลียน.


An Xueyun eyes fell upon Ye Xinghe’s body, she looked with kindness toward him, she definitely didn’t want Ye Xinghe to get expelled from Heavenly Star Academy due to poor talent.
สายตาของอันซุยหยุนจ้องมองลงไปที่ร่างของเย่ซิงเหอ,เขาจ้องมองด้วยความกรุณาต่อเขา.เธอนั้นไม่ต้องการที่จะให้เย่ซิงเหอโดนไล่ออกจากสถาบันดารสวรรค์ด้วยเหตุเพราะพรสวรรค์ที่ย่ำแย่อย่างแน่นอน.

At this moment everyone’s eyes were suddenly drawn towards Ye Xinghe palm, which was still hovering above soul crystals.
ในขณะนั้นสายตาของทุกๆคนต้องจ้องมองไปที่ฝ่ามือของเย่ซิงเหอในทันที,ด้วยการที่เขายังคงโฉบไปมาเหนือแก้วผลึกวิญญาณ
The first red soul crystal suddenly flashed a dim red light, followed by a bright wave of red light.
ทันใดนั้นแก้วผลึกวิญญาณแดงลูกที่หนึ่งก็ค่อยๆมีแสงสีแดงเกิดขึ้นและตามมาด้วยคลื่นแสงสีแดงที่สว่างสะไว.


Finally sensed the first red soul crystal.
ในที่สุดการรับรู้ถึงแก้วผลึกวิญญาณลูกที่หนึ่งก็เกิดขึ้น.


Vice-Headmaster and every teacher in the stage relaxed slightly. every one of them revealed a gratified smiling face. They did not want to believe, that a waste who can not even sense one red soul crystal was admitted in Heavenly Star academy. Really, Ye Xinghe was too nervous in starting and had not gathered his mind.
รองอาจารย์ใหญ่และครูฝึกทุกคนที่อยู่ในเวทีต่างค่อนข้างผ่อนคลาย.ทุกๆคนเผยออกมาถึงใบหน้าที่มีรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจ.พวกเขานั้นไม่อยากจะยอมรับว่า,คนที่ไร้ประโยชน์ที่ไม่สามารถรับรู้ได้แม้แต่แก้วผลึกวิญญาณแดงลูกเดียวนั้นจะได้รับการยอมรับให้เข้ามายังสถาบันดาราสวรรค์.จริงๆแล้ว,เย่ซิงเหอคงจะตื่นเต้นมากจนเกินไปในการเริ่มต้นและเขาจึงไม่สามารถที่จะรวบรวมจิตใจได้.


Liang Yu seeing this cannot help but sneer and coldly snort. Your luck was good that you were able to sense one soul crystal, otherwise, if you had failed, then you would surely have been expelled.
เหลี่ยงหยู่ที่จ้องมองอยู่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยและแค่นเสียงอย่างเย็นชา.โชคของเจ้าคงจะดีที่สามารถรับรู้แก้วผลึกวิญญาณได้ลูกหนึ่ง,ไม่เช่นนั้น,ถ้าเจ้าล้มเหลวล่ะก็,เช่นนั้นแล้วเจ้าจะต้องโดนไล่ออกอย่างแน่นอน.


At this point, Ye Xinghe was not paying attention to anyone. With eyes closed, he was immersed in the tranquil feeling. It was like he was floating in the void.

A moment later, second soul crystal started shining, the orange ray that came out of soul crystal was incomparably pure and bright.
ช่วงระยะเวลาหลังจากนั้น,แก้วผลึกวิญญาณลูกที่สองเริ่มที่จะส่องแสงและรัศมีสีส้มก็ส่องแสงออกมาที่ส่องสว่างเหลือล้นและโชติช่วง

“This is second!!”
"ลูกที่สอง!"

Everyone was a little surprised, no one thought that Ye Xinghe could sense two crystals.
ทุกๆคนยังคงแปลกใจเล็กน้อย.ไม่มีใครที่จะคิดว่าเย่ซิงเหอจะสามารถรับรู้แก้วผลึกลูกที่สองได้.

While everyone was surprised, third crystal also slowly started giving a yellow glow, which was getting brighter by the second.
ขณะที่ทุกคนนั้นเริ่มตกตะลึง,ลูกที่สามก็ค่อยๆเริ่มที่จะมีสีเหลืองสว่างออกมา,ที่เริ่มจะสว่างโชติช่วงออกมาอีก

“He can actually sense three?”
"เขาสามารถที่จะรับรู้ได้ถึงแก้วผลึกที่สามได้อย่างนั้นรึ?"

Seeing this everyone was so surprised that they couldn’t help but not  to believe in their eyes. When Ye Xinghe cannot sense even one soul crystal, everyone thought that Ye Xinghe was a complete waste, however not only Ye Xinghe was not a waste but he was a three soul crystal talent now. As a subservient family member, sensing three crystals was a very outstanding result.

ด้วยการจ้องมองของทุกคนนั้นต่างรู้สึกตกตะลึงซึ่งพวกเขานั้นอดไม่ได้เลยที่จะเชื่อในสายตาของเขา.เมื่อเย่ซิงเหอนั้นไม่สามารถที่จะรับรู้แก้วผลึกวิญญาณได้แม้แต่ลูกเดียวในครั้งแรกนั้นทุกคนต่างเข้าใจได้อย่างแน่ชัดว่าเข้านั้นเป็นคนไร้ประโยชน์,อย่างไรก็ตามเย่ซิงเหอนั้นกลับกลายเป็นไม่ใช่คนไร้ประโยชนแต่เขามีพรสวรรค์รับรู้ได้ถึงแก้วผลึกสามลูกขณะนี้.ขณะที่สมาชิกตระกูลคนรับใช้นั้น,ด้วยการรับรู้แก้วผลึกสามลูกจะเป็นผลลัพธ์ที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก.



ที่มาจาก http://www.novelupdates.com/series/star-martial-god-technique/

#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย
Author(s)



12 ความคิดเห็น:

  1. ไม่รู้จักพี่เหรอ เดวิด คอปเปอร์ฟิล มายากลหินเรืองแสง

    ตอบลบ
  2. ขอบคุนย้อนหลังคับ

    ตอบลบ
  3. เอาอีกยังไม่พอ...ขอบคุณครับ

    ตอบลบ