Star Martial God Technique Chapter 8 – Night time came.
นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่ 8 ค่ำคืนที่ผ่านพ้น
บทที่ 8 ค่ำคืนที่ผ่านพ้น
Ye Xinghe finally got
used to the whole courtyard of his personal quarter. In addition to a living
area and a yard their was also a private study room, which was filled with all
type of books.
ในที่สุดเย่ซิงเหอก็ได้รับสนามหน้าบ้านหนึ่งในสี่ส่วนตัวในที่พักของเขา.นอกเหนือจากพื้นที่อาศัยและสนามของพวกเขาแล้วยังมีห้องเรียนส่วนตัวอีกด้วย,ที่เต็มไปด้วยตำราหลายอย่าง.
However among these
books there was no book for Martial Cultivation. It was to prevent the students
to practice without the guidance or approval of their masters.
อย่างไรก็ตามท่ามกลางตำราเหล่านี้กลับไม่มีตำราที่เกี่ยวกับวิทยายุทธ์การต่อสู้.คงจะเป็นการป้องกันไม่ให้นักเรียนนั้นฝึกฝนโดยไร้ซึ่งการแนะนำและการเห็นชอบจากอาจารย์ของพวกเขา.
Ye Xinghe looked at
all the different books.
เย่ซิงเหอนั้นจ้องมองทั่วทั้งหมดกับตำราที่มีความแตกต่างกันไป.
“Herbs, astronomy,
divination and miscellaneous book….” Ye Xinghe turned around while identifying
different sections of books. There were more than 500 books, the walls of whole
room had been filled by these books.
"ตำรายา,ดาราศาสตร์,การพยากรณ์และตำราอื่นๆ..."เย่ซิงเหอหมุนไปมาขณะที่เขาบอกแยกแยะหมวดของตำราที่แตกต่างกัน.มันมีมากว่าห้าร้อยเล่มเลยทีเดียว,ผนังของห้องทั้งหมดนี้ล้วนแต่เต็มไปด้วยเหล่าตำราต่างๆ.
I will be starting
practice from tomorrow, without the guidance of a master its impossible and ill
advised to practice cultivation. Ye Xinghe had been admitted in Heavenly Star
Academy only after passing several difficult exams. One of them was language
exam, so Ye Xinghe really liked to read. Soon he picked up a book from Herbs
section.
ข้าจะเริ่มฝึกฝนภาคปฏิบัติตั้งแต่พรุ่งนี้,หากไร้ซึ่งการแนะนำจากอาจารย์คงจะเป็นไปไม่ได้และได้รับการฝึกฝนวรยุทธ์อย่างผิดๆเป็นแน่.เย่ซิงเหอนั้นเพิ่งได้รับการยอมรับให้เขามายังสถาบันดาราสวรรค์และได้รับการทดสอบที่ยากลำบากหลายหย่าง.หนึ่งในนั้นเป็นการทดสอบด้านภาษา,ดังนั้นเย่ซิงเหอจึงชื่นชอบที่จะอ่านหนังสือ,ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้หยิบหนังสือในหมวดหมู่ยาสมุนไพร.
Ye Xinghe after
opening the book, was soon completely entranced by it. He even forgot how much
time has passed.
หลังจากที่เย่ซิงเหอนั้นได้เปิดหนังสือออกมา,ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้เขาไปอยู่ในมันอย่างสมบูรณ์,แม้ว่าเขานั้นจะลืมไปเลยว่าเวลานั้นได้ผ่านไปนานเท่าใด.
Ye Xinghe has been
reading for past 2 hours, but unexpectedly he did not feel any exhaustion. A
faint trace of energy from his dantian was slowly dispersing in his four limbs
and hundred meridians.
เย่ซิงเหอนั้นได้กำลังอ่านหนังสือผ่านไปแล้ว
2 ชั่วโมง,แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเขานั้นจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้าแต่อย่างใด,ด้วยพลังานเล็กน้อยจากจุด
ตันเถียน ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งแขนขาทั้งสี่และทั้งร้อยเส้นปราณ.
Not only was his body
not tired, but even his mind felt completely clear. As soon as Ye Xinghe looked
at the writing in the book, his mind completely memorizes it. He can even
repeat it word by word, without omitting a single word.
ไม่เพียงแค่นั้นมันทำให้ร่างกายของเขานั้นไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลย.แม้แต่จิตใจของเขานั้นจะรู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก.ตราบเท่าที่เขานั้นจ้องมองไปยังตำราที่เขียนอยู่นั้น,จิตใจของเขานั้นก็สามารถที่จะจดจำมันได้อย่างแม่นยำ.เขาสามารถที่จะท่องมันออกมาเป็นคำต่อคำได้เลย,โดยไร้ซึ่งการตกหล่นแม้แต่ตัวอักษรเดียว.
At this time, if there
was someone else in the room , then they would notice that the center of Ye
Xinghe’s eyes pupil, was covered by a golden thread. His eyes were shimmering
with faint golden light.
ในเวลานี้นั้น,ถ้ามีใครสักคนหนึ่งอยู่ในห้องของเขาแล้ว,เช่นนั้นเขาอาจจะสังเกตเห็นที่จุดกึ่งกลางของดวงตาเย่ซิงเหอนั้น,ปกคลุมไปด้วยเส้นใยสีทอง,สายตาของเขานั้นส่องแสงแพรวพราวด้วยแสงสีทองจางๆ.
After two hours of
continuous reading, Ye Xinghe completely read the whole book. He was a bit
surprised to find that he can remember everything that he has read just now.
However soon he was attracted towards another book, this time it was a thick
tome of Complete medicinal solutions.
หลังจากผ่านไปแล้วสองชั่วโมงเขากำลังอ่านหนังสืออยู่,เย่ซิงเหอนั้นได้อ่านเกือบจะหมดทั้งเล่มแล้ว,เขาค่อนข้างที่จะแปลกใจเล็กน้อยที่เขานั้นสามารถที่จะจดจำทุกๆสิ่งที่เพิ่งได้อ่านไป.แต่ถึงกระนั้นไม่นานหลังจากนั้นเขาก็สนใจหนังสือเล่มอื่นๆอีก,เวลานี้นั้นมันเป็นหนังสือเล่มหนาเกี่ยวกับสูตรสมุนไพรยา.
Ye Xinghe surprisingly
kept reading for the whole night. He read about different medicinal plant and
about their complete uses through these two books.
เย่ซิงเหอประหลาดใจเป็นอย่างมากยังคงอ่านหนังสือไปเกือบทั้งคืน.เขาได้อ่านเกี่ยวกับความแตกต่างของสมุนไพรทางยาและเกี่ยวกับวิธีที่จะพวกมันเหล่านั้นถึงสองเล่ม.
The day had already
brighten by the time Ye Xinghe closed the second book of medicinal solutions.
After reading the whole book he looked outside.
วันใหม่เริ่มที่จะส่องแสงแล้วตอนนี้เย่ซิงเหอได้ปิดหนังสือเล่มที่สองเกี่ยวกับสูตรของสมุนไพรทางยา.หลังจากที่ได้อ่านหนังสือจบทั้งเล่นแล้วเขามองออกไปข้างนอก.
“What it’s already day
time….? It’s not good I am late.” Ye Xinghe exclaimed in surprise. He hurriedly
ran outside, it was his first day of training with Vice-Headmaster Xu, if he is
late then master will surely be very angry!
"นี่มันเช้าแล้ว...รึ?ไม่ดีแน่ข้าสายแน่."
เย่ซิงเหออุทานออกมาอย่างประหลาดใจ.เขาเร่งรีบที่จะวิ่งออกไปข้างนอก,มันเป็นวันแรกในการฝึกฝนภาคปฏิบัติกับรองอาจารย์ใหญ่ซู,ถ้าเขาสายเช่นนั้นแล้วอาจารย์จะต้องโกรธมากอย่างแน่นอน!
Although Ye Xinghe
have not slept for a minute but he was not feeling any fatigue. Ye Xinghe was
full of energy, he wildly dashed for the training area.
แม้ว่าเย่ซิงเหอนั้นจะไม่ได้นอนแม้แต่นาทีเดียวแต่เขานั้นก็ไม่ได้รู้สึกเมื่อยล้าใดๆเลย.เย่ซิงเหอนั้นล้วนแล้วแต่มีกำลังเต็มสูบ,เขาเตลิดออกไปยังสถานที่ฝึกฝน.
Practice Grounds.
สนามฝึกฝน.
By the time Ye Xinghe
arrived at the practice grounds, he could already see some people standing in
the field. Everyone was wearing pure white gowns. While standing in front of An
Xueyun and Liang Yu, Vice-Headmaster Xu was giving an appearance of immortality
and extra-ordinance. Vice-Headmaster Xu was already teaching An Xueyun, Liang
Yu and giving instructions.
เวลาต่อมาเย่ซิงเหอก็ได้มาถึงลานฝึกฝน,เขาได้มองใบยังบางคนที่ยืนอยุ่ที่สนาม,ทุกๆคนได้สวมชุดสีขาวส่องแสง,ในขณะที่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าของอันซุยหยุนและเหลียงหยู,
รองอาจารย์ใหญ่ซูได้แสดงท่าทางจริงจังและเข้มงวด.รองอาจารย์ใหญ่ซูนั้นกำลังสอนอันซุยหยุน,เหลียงหยูพร้อมทั้งให้คำแนะนำ.
Ye Xinghe hurriedly
ran and took his place beside them.
เย่ซิงเหอได้เร่งรีบวิ่งออกมาและเข้าไปยู่ข้างๆพวกเขา.
“You came just now?”
seeing Ye Xinghe coming late Vice Headmaster Xu wrinkled his brow.
เจ้าเพิ่งจะมาถึงอย่างนั้นรึ?"ด้วยการจ้องมองไปที่เย่ซิงเหอที่มาสายรองอาจารย์ใหญ่ขยิบตาของเขาให้.
“Sorry!!!” Seeing
Master Xu’s unhappy expression Ye xinghe did not dare to argue. He silently
rebuked himself in his heart for coming late in his first day.
"ต้องขอประทานโทษขอรับ!!!"
ด้วยการมองท่าทางอาจารย์ซูไม่ค่อยมีความสุขเย่ซิงเหอหาได้กล้าที่จะโต้เถียงใดๆ.เขายังคงเงียบตำหนิตัวเองภายในใจที่มาสายในวันแรกนี้.
Liang Yu watching
Master Xu’s unhappy expression was suddenly very much delighted in his heart.
He really wanted to laugh out loud, this idiot Ye Xinghe unexpectedly was late
for his first day of training, he will surely be severely punished by Master
Xu. The first impression of Ye Xinghe in Vice-Headmaster Xu’s heart is
definitely a poor one.
เหลียงหยูเฝ้ามองท่าทางที่ไม่มีความสุขของอาจารย์ซูแล้วทันใดนั้นเขาก็สำราญใจเป็นอย่างมากข้างในใจ.เขาต้องการที่จะหัวเราะออกมาจริงๆ,เจ้าโง่เย่ซิงเหอนี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาสายในการฝึกฝนในวันแรก,เขาจะต้องได้รับการลงโทษโดยอาจารย์ซูอย่างแน่นอน.ความประทับใจแรกของเย่ซิงเหอในครั้งแรกของรองอาจารย์ใหญ่นั้นจะต้องย่ำแย่ลงด้วยอย่างแน่นอน.
Master Xu had been
angry in his heart from the morning when he did not find Ye Xinghe in the
practice field. Ye Xinghe inspired six soul crystals in the test so his talent
in cultivation will be good, however, if he is too lazy to cultivate than he
will never be able to become a true powerhouse.
อาจารย์ซูรู้สึกโกรธภายในใจเป็นอย่างมากจากตอนเช้าเมื่อเขาไม่สามารถหาเย่ซิงเหอจากลานฝึก.เย่ซิงเหอนั้นได้กระตุ้นแก้วผลึกวิญญาณได้หกลูกสำหรับการทดสอบ
ด้วยพรสวรรค์เช่นนี้แล้วการฝึกยุทธ์ของเขานั้นจะต้องดีเยี่ยม,แต่ถึงกระนั้น,ถ้าเขานั้นเกียจคร้านมากเกินไปสำหรับการฝึกวรยุทธ์นั้นแล้ว
เขาจะไม่สามารถที่จะกลายเป็นคนที่ทรงพลังได้นั่นเอง.
What time is it.
นี่มันเวลาอะไร.
He has been teaching
An Xueyun and Liang Yu for half an hour, and Ye Xinghe has just arrived.
เขาได้ทำการสั่งสอนอันซุยหยุนและเหลียงหยูมาแล้วครึ่งชั่วโมงและเย่ซิงเหอนั้นเพิ่งจะมาถึง.
He valued Ye Xinghe
very much, and precisely because he valued him so much he was feeling so much
angry.
ให้คุณค่าเย่ซิงเหอเป็นอย่างมาก,และด้วยความซื่อตรงอันเนืองจากให้ค่ากับเขามากนักจึงทำให้เขานั้นรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก.
He was worried about
Ye Xinghe, he had seen many students who had good talents but because they did
not like to cultivate diligently, were soon vanished completely from
cultivation world.
เป็นได้เป็นกังวลเกี่ยวกับเย่ซิงเหอ,เขาได้เห็นนักเรียนเป็นจำนวนมาที่มีพรสวรรค์ที่ดีแต่เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ทำการฝึกยุทธ์อย่างขยันขันแข็ง,ทำให้ไม่นานก็ห่างหายไปอย่างสมบูรณ์จากโลกของวิทยายุทธ์
But to see Ye Xinghe’s
guilty expression after being rebuked, Master Xu relented a little and said in
a deep voice ” From now on you can never be late, every morning you have to
start practice by 6:00 AM. You have good talent but not working hard will not
be tolerated by me. An Xueyun and Liang Yu are already in 2nd Layer of Heavenly
Realm and you have not even touched the threshold of 1st Heavenly Layer Realm.
You should make vigorous efforts so that you can sooner catch up to them. How
can you be Lazy ?”
แต่เมื่อมองท่าทางรู้สึกผิดของเย่ซิงเหอแล้วหลังจากที่กำลังดุด่าเขา,อาจารย์ซูก็ผ่อนคลายลงมาเล็กน้อยและกล่าวออกมาด้วยเสียงลุ่มลึก"นับตั้งแต่ตอนนี้เจ้าห้ามมาสายโดยเด็ดขาด,ทุกๆเช้าเจ้าต้องเริ่มฝึกตั้งแต่หกโมงเช้า.เจ้ามีพรสวรรค์ที่ดีแต่ไม่ฝึกฝนอย่างหนักและต้องไม่ย่อท้อในตัวเอง.อันซุยหยุนและเหลียงหยูนั้นล้วนแล้วแต่อยู่ระดับชั้นที่สองของดินแดนสวรรค์และเจ้านั้นยังไม่แม้แต่เข้าใกล้จุดสูงสุดของระดับชั้นที่
1
ของชั้นดินแดนสวรรค์.เจ้าควรที่จะขยันขันแข็งพยายามให้สามารถตามพวกเขาให้ทันในเร็วๆนี้.เจ้ายังสามารถที่จะเกียจคร้านได้อย่างไรกัน?
“Yes Master, disciple
understand his mistake” Ye Xinghe said while lowering his head.
"ขอรับอาจารย์,ศิษย์เข้าใจในความผิดพลาด"เย่ซิงเหอพูดขณะที่โน้มหัวลงต่ำ.
He could only blame
himself to lost track of time and to be late at the first day.
เขาได้แต่เพียงตำหนิตัวเองที่เสียเวลาในการหาเส้นทางจึงทำให้สายในวันแรก
Linag Yu took pleasure
in his mis-fortune but An Xueyun simple shook her head in disappointment and
continued to practice.
เหลียงหยูได้รู้สึกมีความสุขในความโชคร้ายของเขาแต่อันซุยหยุนนั้นทำแค่เพียงส่ายหัวไปมาในความผิดหวังและยังคงทำการฝึกฝนต่อไป.
An Xueyun also thought
that Ye Xinghe had been sleeping late, therefore was late for his first day. No
one knew that Ye Xinghe had been reading books the whole evening and night, and
that he had memorized both books regarding herbs and complete medical solution
by just reading them once.
อันซุยหยุนนั้นคิดอยู่เหมือนกันว่าเย่ซิงเหอนั้นได้ตื่นสาย,ดังนั้นจึงทำให้เขานั้นมาล่าช้าในวันแรกของเขา.ไม่มีใครรู้เลยว่าที่เย่ซิงเหอนั้นมาช้าเนื่องจากอ่านหนังสือทั้งเย็นและทั้งคืน,และนั่นก็ทำให้เขานั้นสามารถจดจำหนังสือที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรและสูตรเกี่ยวกับยาได้สำเร็จโดยเพียงแค่อ่านแค่ครั้งเดียว.
“Hmm.. Good, the
matter of your being late in morning will be put aside for now. Now we will
start practicing” Vice Headmaster did not further criticizes Ye Xinghe and
beckoned him to come close while saying ” Now i will start teaching you Martial
Arts”
"อืม...ดี,สำหรับเรื่องที่เจ้ามาสายนั้นจะเก็บไว้ก่อนในตอนนี้.
ตอนนี้พวกเรามาเริ่มฝึกฝนกัน" รองอาจารย์ใหญ่นั้นไม่ได้ทำการติเตือนเย่ซิงเหออีกต่อไปและกวักมือเรียกเขาให้เข้ามาใกล้ๆขณะที่พูดว่า"ตอนนี้ข้าจะเริ่มสั่งสอนเจ้าเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้"
“Yes” Ye Xinghe
immediately stood straighter and replied seriously.
"ขอรับ"
เย่ซิงเหอเดินตัวตรงและตอบกลับอย่างจริงจังในทันที.
Liang Yu was greatly surprised,
Master Xu did not even scold him heavily and it’s already over? He also thought
that with Master Xu’s personality at-least he will get to see a good punishment
to Ye Xinghe.
เหลียงหยูประหลาดใจเป็นอย่างมาก,อาจารย์ซู
นั้นไม่ได้ด่าว่าเขาอย่างรุนแรงและมันก็จบเรียบร้อยแล้วอย่างนั้นรึ?
เขาคิดเหมือนกันว่าอาจารย์ซูที่มีความเข็มงวดเป็นอย่างมากเขาจะต้องทำการลงโทษเย่ซิงเหออย่างหนักแน่.
“An Xueyun and Liang
Yu have already reached 2nd Layer of Heavenly Realm, but you still have to even
reach 1st Heavenly realm. Now what i will teach you is how to sense Qi in you
Dantian for the first time.” Vice-Headmaster Xu said ” First stand in Horse
Stance, Now close your eyes, center your mind in Dantian near your navel, now
control your thoughts in dantian an try to harmonize it with Qi in your datian.
When you have successfully sensed Qi in you datian it should give you slight
heat, when that happens it means you have successfully passed the threshold.”
"อันซุยหยุนและเหลียงหยูนั้นได้ไปถึงระดับ
2 ชั้นดินแดนสวรรค์แล้ว,แต่เจ้ายังไปถึงแค่ระดับที่ 1
ชั้นดินแดนสวรรค์.ตอนนี้สิ่งที่ข้าจะสอนเจ้าเป็นอันดับแรกนั้นคือการจะรับรู้พลัง ชี่ ในจุดดันเถียนได้อย่างไรในครั้งแรกนี้."
รองอาจารย์ใหญ่กล่าวว่า"ขั้นแรกตั้งตัวตรงในท่ายืนแบบม้า,ขณะที่ปิดตาของเจ้า,จุดศูนย์กลางของจิตใจในดันเถียนใกล้กับสะดือ,ตอนนี้เจ้าต้องพยายามบังคับจิตใจของเจ้าให้สามารถที่จะผสานเข้ากับ
ชี
ในจุดดันเถียนซึ่งมันจะทำให้เจ้าค่อยๆร้อนขึ้น,เมื่อเจ้ารับรู้ได้ถึงมันแล้วเจ้าก็จะประสบความสำเร็จและผ่านมันเข้าใกล้ทางเข้าแล้ว.
As soon as Ye Xinghe
heard Master Xu’s words, he took horse stance and started trying to do exactly
as the Master had said.
ทันใดนั้นเย่ซิงเหอได้ยินคำพูดของอาจารย์ซู,เขาได้ยืนท่าเหมือนกับม้าและเริ่มพยายามที่จะทำอย่างจริงจังเหมือนดังกับที่อาจารย์ได้กล่าวไป.
He gathered all his
thoughts and mind in dantian, it took several breaths of time for him to calm
his heart and be successful. As soon as he was able to center himself fully he
sensed unsteadily moving heat waves inside his dantian.
เขาได้ทำการรวบรวมความคิดของเขาและจิตใจของเขาในจุดดันเถียน,ด้วยการหายใจเข้าหลายครั้งทำให้เขาสามารถที่จะทำจิตใจให้สงบได้และเริ่มที่จะเห็นผล.ไม่นานหลังจากนั้นเขาสามารถที่จะรับรู้ได้ถึงจุดศูยน์กลางของเขาได้อย่างไม่แน่ใจนักมันเคลื่อนที่เป็นคลื่นความร้อนอยู่ภายในจุดดันเถียน.
Could it be that,
these gas like warm waves in his dantian are the Qi that Master mentioned?
Having sensed the existence of Qi, Ye Xinghe was immediately excited.
มันอาจจะเป็นสิ่งนั้น,เหล่าแก็สนั้นเหมือนดังคลื่นความร้อนที่จุดดันเถียงคงเป็น
ชี ที่อาจารย์ได้เอ่ยถึงหรือไม่? ด้วยการมีการรับรู้การมีอยู่ของ ชี,เย่ซิงเหอนั้นตื้นเต้นในทันที.
“Why did you open your
eyes?” Vice-Headmaster Xu wrinkled his eyebrows while asking. He was just about
to leave because a beginner martial cultivator who is trying to sense qi for
first time always take more than two hours at least. He was planning to go and
teach martial arts to An Xueyun and Liang Yu while Ye Xinghe was practicing.
And then come back when Ye Xinghe has succeeded.
"ทำไมเจ้าถึงได้เปิดตาของเจ้าล่ะ?"รองอาจารย์ซูได้ขยิบตาของเขาขณะที่กำลังถาม.เขาแค่เพียงแค่บอกและปล่อยเขาไว้เพราะว่าผู้ฝึกยุทธ์การต่อสู้ตอนเริ่มต้น
คนที่พยายามที่จะรับรู้ถึง ชี ได้ในครั้งแรกนั้นจะต้องใช้เวลามากกว่าสองชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ.เขาได้วางแผนที่จะให้ทำอย่างนั้นและไปสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับอันซุยหยุนและเหลียงหยู่
ขณะที่เย่ซิงเหอนั้นให้ทำการฝึกฝน.และจากนั้นเมื่อเขากลับมาเห็นเย่ซิงเหอนั้นได้ทำมันเสร็จสิ้นแล้ว.
“Master i think i have
sensed the Qi you speak of” Ye Xinghe said a little weakly, because he was not
confident that the heat waves he have sensed are the Qi.
"อาจารย์ข้าคิดว่าข้าสามารถที่จะรับรู้ได้ถึง
ชี ตามที่ท่านกล่าวแล้ว"
เย่ซิงเหอกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา,เพราะว่าเขานั้นไม่ค่อยมั่นใจเกี่ยวกับคลื่นความร้อนที่เขานั้นได้รับรู้ว่ามันคือ
ชี.
“What, you have sensed
it so quick” Vice-Headmaster Xu froze for a moment and then asked “Did you
perhaps had already sensed Qi before this?”
"อะไร,เจ้ารับรู้ได้ถึงมันรวดเร็วนัก"
รองอาจารย์ใหญ่ซูแน่นิ่งไปชั่วขณะก่อนที่จะกล่าวออกมา
"บางทีเจ้าอาจจะสามารถรับรู้ถึง ชีได้ก่อนหน้านี้อย่างนั้นรึ?"
Ye Xinghe did not know
how to reply, it was his first time sensing something in his dantian.
เย่ซิงเหอไม่รุ้เลยว่าเขาจะตอบไปอย่างไร,มันเป็นครั้งแรกที่เขารับรู้ได้ถึงบางสิ่งในจุดดันเถียน.
“When you center you
mind in dantian, do you sense a faint trace of surging heat wave of needle
point size in it” Vice-Headmaster Xu seeing Ye Xinghe standing confusingly and
not answering, asked another question.
"เมื่อจุดศูนย์กลางของจิตใจเจ้าอยู่ในจุดดันเถียน,เจ้าจะรับรู้ได้ถึงร่องรอยของพลังความร้อนที่พลุ้งพล่านเท่ากับขนาดของจุดเข็ม."รองอาจารย์ใหญ่ซูจ้องมองไปที่เย่ซิงเหอที่ยืนอยู่ด้วยความสับสนและไม่ได้ตอบอะไรเขา,จึงได้ถามออกมาอีกคำถาม.
A heat wave of needle
point size, faint trace? Ye Xinghe gawked. When he sensed heat wave in his
dantian it was definitely not Needle-point size, but it was at-least thumb
size. How should he answer to Master’s question.
คลื่นความร้อนที่เท่ากับขนาดเข็ม,ร่องรอยเล็กน้อยอย่างนั้นรึ?
เย่ซิงเหอเพ่งพิศ.เมื่อเขาสามารถรับรู้ได้ถึงคลื่นความร้อนในจุดดันเถียนนั้นแน่นอนว่ามันไม่ใช่เท่ากับจุดเข็มอย่างแน่นอน,แต่มันเป็นขนาดอย่างน้อยก็เท่ากับนิ้วโป้ง.เขาควรที่จะตอบคำถามอาจารย์อย่างไรดี.
“Yes”Ye Xinghe
hesitated but it still nodded.
"ขอรับ"
เย่ซิงเหอลังเลแต่ก็ยังพยักหน้า.
“Then that was
it”Vice-Headmaster Xu smiled while saying it. “You will try to lead this heat
wave through life gate(Ming-men point) in your lower torso. After passing it
from there lead it to the back of your head and then going over it through god
gate while leading it near your lips and now lead through the front of your
body back to your dantian. The more revolutions you do, more your Qi will
become sturdy. when you can do 36 revolutions in quarter hour then i will teach
you next”
"เป็นเช่นนั้นรึ"
รองอาจารย์ซูได้ยิ้มขณะที่เขานั้นกล่าวออกมา."เจ้าจงพยายามนำความร้อนดังกล่าวผ่านไปยังประตูแห่งชีวิต(จุด
หมิงผู้ชาย)ที่อยู่ใต้ลำตัวของเจ้า.หลังจากนั้นให้นำมันผ่านไปยังข้างหลังศีรษะของเจ้าและจากนั้นก็ผ่านมันไปยังประตูแห่งพระเจ้าขณะที่จะได้นำมันมันเข้าใกล้ริมฝีปากและเจ้าจงนำมันผ่านไปยังข้างหน้าของเจ้าซึ่งอยู่ข้างหลังของจุดดันเถียนนั่นเอง.เจ้าจงทำการโคจรมันให้มาก,เรื่อยๆจนกว่าชีของเจ้านั้นจะแข็งแรง.จากนั้นเจ้าสามารถที่จะทำ
36 การโคจรภายในหนึ่งส่วนสี่ของชั่วโมงจากนั้นข้าจะสอนเจ้าต่อไป"
“You have inspired six
soul crystals, so your talent in cultivation should be pretty good, if there is
no accident then you can reach the threshold of 1 st layer of Heavenly Realm in
10 days.” Vice-Headmaster Xu smiling said “When you can sense a steady trickle
in you dantian then it will mean that you have taken first step in 1st layer of
Heavenly Realm. In 1st Layer of Heavenly Realm your body’s strenght will grow
enormously, and you will have special feeling in your vigor.”
"เจ้าสามารถที่จะกระตุ้นหกแก้วผลึกวิญญาณ,ดังนั้นด้วยวรยุทธ์ควรที่จะค่อนข้างดี,ถ้าไม่มีอุบัติเหตุใดเช่นนั้นแล้วเจ้าจะสามารถไปถึงประตูของระดับชั้นที่หนึ่งได้ภายใน
10 วัน "รองอาจารย์ใหญ่ซูได้ยิ้มออกมา "เมื่อเจ้านั้นสามารถที่จะรับรู้ได้ถึงจำนวนที่ไหลเวียนอย่างมั่นคงในจุดดันเถียนจากนั้นก็หมายความว่าเจ้านั้นสามารถที่จะก้าวเข้าไปยังชั้นที่
1 ดินแดนสวรรค์ได้.ในระดับชั้นที่ 1
ดินแดนสวรรค์นั้นความแข็งแกร่งของร่างกายของเจ้านั้นจะเจริญเติบโตเป็นอย่างมาก,และเจ้ายังสามารถที่จะได้รับความรู้สึกที่พิเศษเกี่ยวกับพลังอำนาจได้."
“Yes” Ye Xinghe took
his horse stance and started practicing as Master Xu had directed.
"ขอรับ"เย่ซิงเหอยังคงยืนอยู่ในท่ายืนม้าและเริ่มที่จะฝึกฝนดั่งที่อาจารย์ได้แนะนำ.
“This is star martial art cultivation basic
technique, called Star Martial God Technique. First take it, and when you have
reached 1st Layer of Heavenly Realm then start practicing according to this
book and start sensing the power of stars. If you have any question during
training then you can come and ask me.” Master Xu took out a booklet and said
after giving it to Ye Xinghe.
"นี่เป็นวรยุทธ์พื้นฐานของวิทยายุทธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งดวงดารา,เรียกว่าวรยุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา.อันดับแรกเก็บมันไว้,และเมื่อเจ้านั้นสามารถที่จะไปถึงระดับที่
1
ชั้นดินแดนสวรรค์เช่นนั้นแล้วค่อยเริ่มฝึกฝนเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่หนังสือเล่มนี้และค่อยๆเริ่มรับรู้ถึงพลังแห่งดวงดารา.ถ้าเจ้ามีคำถามใดๆขณะที่ฝึกฝนจากนั้นเจ้าสามารถเข้ามาและถามข้าได้."
อาจารย์ซูได้นำตำราเล่มเล็กออกมาให้หลังจากที่เขาพูดแล้วมอบให้กับเย่ซิงเหอ.
ที่มาจาก http://www.novelupdates.com/series/star-martial-god-technique/
#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย
Author(s)
เกล็ดความรู้พลังภายใน.
"dantian" อ่านว่า
"ตันเถียน" แปลว่า
"ทุ่งนาที่เพาะปลูกยาอายุวัฒนะ"
จุด dantian จะอยู่ประมาณ 1.3 (หนึ่งจุดสามนิ้ว)
ใต้สะดือ
(อาจารย์บางท่านก็ว่าอยู่ต่ำกว่านี้หรือสูงกว่านี้
จนสูงไปอยู่ระดับเดียวกับสะดือก็ว่าได้)
แต่จากประสบการณ์ของตนเอง
มันคือจุด center of gravity หรือจุด CG ในร่างกายคนเรานั้นเอง
มันจะอยู่สูงอยู่ต่ำแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับโครงสร้างทางสรีระของแต่ละคน
ดังนั้นวิธีหารจุด dantian ก็คือ ให้คิดว่า I am the
center of the universe (ข้าพเจ้าเป็นศูนย์กลางของจักรวาล)
และคิดว่า gravity (แรงโน้มถ่วงของโลก)
กระทำต่อ จุดที่อยู่ตรงกลางของร่างกายตนเอง ท่านก็จะหาจุด dantian ได้เจอในที่สุด
พูดง่ายๆคือ ตันเถียน
คือจุดที่มีปริมาณชี่สะสมมากกว่าจุดอื่นๆ ในร่างกายมีด้วยกันทั้งหมด 3 สามจุดคือ
ตันเถียนบน -
อยู่ในศรีษะบริเวณหน้าผากเหนือหว่างคิ้ว
ตันเถียนกลาง - อยู่บริเวณหัวใจ
ตันเถียนล่าง - อยู่ในท้องน้อย อยู่ต่ำกว่าสะดือ
3 นิ้วมือ
บางครั้งจึงเจอ 2 นิ้วบ้าง 3 นิ้วบ้าง
คาดว่าอันนึงเป็นนิ้วไม้บรรทัด อีกอันนึงเป็นนิ้วมือ
เคยได้ยินมาว่าจริงๆแล้วในทางการแพทย์จีนหมายถึง 3 นิ้วมือผู้ป่วยเป็นตัววัด
หลักการสำคัญในการฝึกลมปราณ (สาระสำคัญของวิชา)
พอที่จะสรุปได้ 4 ประการคือ
1. ตั้งสมาธิอยู่ที่จุด dantian (ภาษาจีนกลาง) หรือ tanden (ภาษาญึ่ปุ่น)
2. ส่ง qi (ภาษาจีนกลาง) หรือ ki (ภาษาญี่ปุ่น) (พลังลมปราณ) ให้แพร่กระจายออกไปไกลสุดสายตา และครอบคลุมจักรวาล
3. ผ่อนคลาย (ร่างกายและจิตใจ) ให้มากที่สุด
4. ทำให้น้ำหนักตัวที่ทุกจุด ให้ใฝ่หาที่ต่ำ
ในส่วนข้อ 4. ความเห็นผม ( เอกณัฏฐ์ ) น่าจะหมายถึง การถ่ายเทพลังงานในร่างกายจากจุดต่างๆ คืนสู่พื้นดิน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนพลังงานกับธรรมชาติ
ก่อนที่จะเขียนต่อไป ก็ขอให้นิยามศัพท์บางคำก่อน
qi คืออะไร
คนจีนเรียกพลังชีวิตว่า “ชี่” จีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า “ขี่” ภาษาสันสกฤตใช้คำว่า “ปราณ” (prana) ส่วนคนญี่ปุ่นเรียกพลังชีวิตว่า “ กิ” (ki) และในภาษากรีกเรียกว่า “ นูมา” (pneuma)
qi หรือลมปราณมีความละเอียดดุจใยไหม มีสภาพคล้ายของเหลว, ของไหลแก๊ส และมีคุณสมบัติในเชิงไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ศาสตร์การแทงเข็ม (acupuncture) เป็นการปรับเปลี่ยนดุลยภาพของ qi ในอวัยวะต่างๆ จึงรักษาโรคได้ โดยอาศัย The Law of the Five Elements (หลักการแห่งธาตุทั้ง 5) ใน Daoism (Taoism หรือลัทธิเต๋า)
พลังชี่ทั้ง ๓
ในคัมภีร์อี้จิงเก่าแก่ของจีน กล่าวว่าคนเราสัมพันธ์กับชี่ 3 ประเภท หรือ พลังทั้ง 3 คือ พลังชี่ของฟ้าหรือสวรรค์ พลังชี่ของดินหรือของโลก และพลังชี่ของมนุษย์
1. พลังชี่ของฟ้าหรือชี่สวรรค์ คือพลังธรรมชาติที่อยู่บนท้องฟ้าและในจักรวาล เช่น พลังจากดวงอาทิตย์ แรงดึงดูดจากดวงจันทร์และดวงดาว พลังงานที่เกิดจากลม พายุ สายฝน ก้อนเมฆ และอากาศทั้งหมด
2. พลังชี่ของดินหรือชี่ของโลก คือ พลังธรรมชาติที่อยู่บนโลก ทั้งบนดินและใต้ดิน ก้อนหิน ดินทราย สายน้ำ แร่ธาตุ ต้นไม้ และสัตว์ต่าง ๆ
3. พลังชี่ของมนุษย์ ความจริงชี่ของคน ก็จัดเป็นชี่ของโลกด้วยเช่นเดียวกับชี่ของสัตว์และต้นไม้ แต่เพราะมนุษย์แต่ไหนแต่ไรมา เห็นว่าตนเองแตกต่างจากสัตว์และพืช
จึงแยกตัวเองออกมาเป็นสิ่งมีชีวิตเฉพาะอย่างที่พิเศษกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ และเพื่อสามารถศึกษาค้นคว้าให้เกิดชุดความรู้ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและการบำบัดรักษาตัวเองด้วย
ชี่ก็คือชีวิต พลังชี่ก็คือพลังแห่งชีวิต ชี่คือสิ่งมีอยู่แล้วในร่างกายของเรา ต่อไปจะเรียกชี่ว่าปราณนะครับ
ตั้งแต่เกิดเมื่อมีพลังปราณจึงมีชีวิต เมื่อสิ้นชีวิตพลังปราณก็จะหายไป
เราจะแบ่งปราณในตัวเราออกเป็น3ชนิดด้วยกันคือ
เว่ยชี่ - หมายถึงปราณที่แล่นอยู่นอกเส้นชีพจรหรือเส้นเลือดทำหน้าที่ในการบำรุงเลี้ยงร่างกายให้เกิดความอบอุ่นรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ป้องกันไม่ให้ถูกปัจจัยภายนอกเข้ามาจู่โจมร่างกายเรา
อิ๋งชี่ - หมายถึงปราณที่แล่นอยู่ในเส้นชีพจรหรือเส้นเลือด ซึ่งก็คือระบบการไหลเวียนของเลือดนั่นเอง
จั้นฝู่จือชี่ - หมายถึงพลังปราณที่อยู่ในอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งโดยเฉพาะ ทำให้อวัยวะนั้นๆทำงานได้
1. ตั้งสมาธิอยู่ที่จุด dantian (ภาษาจีนกลาง) หรือ tanden (ภาษาญึ่ปุ่น)
2. ส่ง qi (ภาษาจีนกลาง) หรือ ki (ภาษาญี่ปุ่น) (พลังลมปราณ) ให้แพร่กระจายออกไปไกลสุดสายตา และครอบคลุมจักรวาล
3. ผ่อนคลาย (ร่างกายและจิตใจ) ให้มากที่สุด
4. ทำให้น้ำหนักตัวที่ทุกจุด ให้ใฝ่หาที่ต่ำ
ในส่วนข้อ 4. ความเห็นผม ( เอกณัฏฐ์ ) น่าจะหมายถึง การถ่ายเทพลังงานในร่างกายจากจุดต่างๆ คืนสู่พื้นดิน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนพลังงานกับธรรมชาติ
ก่อนที่จะเขียนต่อไป ก็ขอให้นิยามศัพท์บางคำก่อน
qi คืออะไร
คนจีนเรียกพลังชีวิตว่า “ชี่” จีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า “ขี่” ภาษาสันสกฤตใช้คำว่า “ปราณ” (prana) ส่วนคนญี่ปุ่นเรียกพลังชีวิตว่า “ กิ” (ki) และในภาษากรีกเรียกว่า “ นูมา” (pneuma)
qi หรือลมปราณมีความละเอียดดุจใยไหม มีสภาพคล้ายของเหลว, ของไหลแก๊ส และมีคุณสมบัติในเชิงไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ศาสตร์การแทงเข็ม (acupuncture) เป็นการปรับเปลี่ยนดุลยภาพของ qi ในอวัยวะต่างๆ จึงรักษาโรคได้ โดยอาศัย The Law of the Five Elements (หลักการแห่งธาตุทั้ง 5) ใน Daoism (Taoism หรือลัทธิเต๋า)
พลังชี่ทั้ง ๓
ในคัมภีร์อี้จิงเก่าแก่ของจีน กล่าวว่าคนเราสัมพันธ์กับชี่ 3 ประเภท หรือ พลังทั้ง 3 คือ พลังชี่ของฟ้าหรือสวรรค์ พลังชี่ของดินหรือของโลก และพลังชี่ของมนุษย์
1. พลังชี่ของฟ้าหรือชี่สวรรค์ คือพลังธรรมชาติที่อยู่บนท้องฟ้าและในจักรวาล เช่น พลังจากดวงอาทิตย์ แรงดึงดูดจากดวงจันทร์และดวงดาว พลังงานที่เกิดจากลม พายุ สายฝน ก้อนเมฆ และอากาศทั้งหมด
2. พลังชี่ของดินหรือชี่ของโลก คือ พลังธรรมชาติที่อยู่บนโลก ทั้งบนดินและใต้ดิน ก้อนหิน ดินทราย สายน้ำ แร่ธาตุ ต้นไม้ และสัตว์ต่าง ๆ
3. พลังชี่ของมนุษย์ ความจริงชี่ของคน ก็จัดเป็นชี่ของโลกด้วยเช่นเดียวกับชี่ของสัตว์และต้นไม้ แต่เพราะมนุษย์แต่ไหนแต่ไรมา เห็นว่าตนเองแตกต่างจากสัตว์และพืช
จึงแยกตัวเองออกมาเป็นสิ่งมีชีวิตเฉพาะอย่างที่พิเศษกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ และเพื่อสามารถศึกษาค้นคว้าให้เกิดชุดความรู้ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและการบำบัดรักษาตัวเองด้วย
ชี่ก็คือชีวิต พลังชี่ก็คือพลังแห่งชีวิต ชี่คือสิ่งมีอยู่แล้วในร่างกายของเรา ต่อไปจะเรียกชี่ว่าปราณนะครับ
ตั้งแต่เกิดเมื่อมีพลังปราณจึงมีชีวิต เมื่อสิ้นชีวิตพลังปราณก็จะหายไป
เราจะแบ่งปราณในตัวเราออกเป็น3ชนิดด้วยกันคือ
เว่ยชี่ - หมายถึงปราณที่แล่นอยู่นอกเส้นชีพจรหรือเส้นเลือดทำหน้าที่ในการบำรุงเลี้ยงร่างกายให้เกิดความอบอุ่นรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ป้องกันไม่ให้ถูกปัจจัยภายนอกเข้ามาจู่โจมร่างกายเรา
อิ๋งชี่ - หมายถึงปราณที่แล่นอยู่ในเส้นชีพจรหรือเส้นเลือด ซึ่งก็คือระบบการไหลเวียนของเลือดนั่นเอง
จั้นฝู่จือชี่ - หมายถึงพลังปราณที่อยู่ในอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งโดยเฉพาะ ทำให้อวัยวะนั้นๆทำงานได้
ที่มา http://www.luangputo.com/forum/index.php?topic=81.0
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ รอผลงานครับๆ
ตอบลบมีอธิบายด้วย ดีมากเลยครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบพระคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ สนุก
ตอบลบขอบพระคุณครับ
ตอบลบขอบคุณมากๆครับผม
ตอบลบสาระขนาด
ตอบลบมีแสงส่องออกมาจากตา เด็กจากต่างดาวนี่เอง พ่อหนุ่มเย่
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณคับ ได้ความรู้ทำให้อ่านเรื่องอื่นๆได้เข้าใจมากขึ้น ^_^
ตอบลบขอบคุณค่า
ตอบลบขอบคุณมากๆครับ
ตอบลบเดี๋ยวก็เก่งเนอะ😊
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุนย้อนหลังคับ อิอิ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ