Star Martial God Technique Chapter 103 Fate

Star Martial God Technique Chapter 103 Fate

นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่ 103 โชคชะตา

บทที่ 103 โชคชะตา

เย่ซิงเหอเองก็รู้ดีว่าการนำกองกำลังจากภายนอกเข้ามานั้นสามารถป้องกันความปลอดภัยให้กับตระกูลเพียงชั่วคราวเท่านั้น,ทว่าหากต้องการที่จะให้ตระกูลขนนกสีฟ้ามีความปลอดภัยที่แท้จริง,ตระกูลขนนกสีฟ้าเองจะต้องมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่านี้.

เย่ซิงเหอจำต้องจัดเตรียมการฝึกวรยุทธ์ให้กับคนภายในตระกูลในตอนนี้เท่าที่จะเป็นไปได้,เรื่องอื่น,เย่ซิงเหอยังคงไม่สามารถทำอะไรได้มาก.

ในหลายวันมานี้,ตระกูลขนนกสีฟ้านั้นมีเสียงดังอึกทึกครึกโครมครึกครื้นเป็นอย่างมาก.

ขณะที่เย่ซิงเหอกำลังบำเพ็ญพลังอยู่นั้น,เย่จุนและเย่จัวทั้งสองก็ได้เดินตรงมาหาเขา.

"ท่านลุงประมุขและท่านพ่อ,มีเรื่องอะไรกันรึ?"เย่ซิงเหอจ้องมองไปยังเย่จุนและเย่จัว ทั้งสองคนมีท่าทางไม่สู้ดีนัก.

"ซิงเหอ,พวกเราเพิ่งได้รับคำเชิญจากตระกูลจันทราทมิฬ,ตระกูลในอาณัติทั้งหมดต่างได้รับ,ว่าจะต้องเข้าร่วมชุมนุมที่ตระกูลจันทราทมิฬเป็นคนจัด,หากว่าใครไม่เข้าร่วม,จะให้ถือว่าเป็นกบฏ."เย่จุนจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอ.

"ให้ถือว่าเป็นกบฏเลยรึ?"เย่ซิงเหอหรี่ตาเล็กลง,พวกเขาคงต้องการที่จะให้ตระกูลขนนกสีฟ้าเป็นกบฏรึ,คงเป็นการแย่หากตระกูลจันทราทมิฬนั้นเริ่มทำการล้อมกรอบตระกูลขนนกสีฟ้าเช่นนี้อาจจะถึงจุดจบก็เป็นได้.

"พวกเราในตอนนี้,ถูกหาว่าต่อต้านพวกเขาอยู่มีชื่อเสียงที่ไม่ดีนัก,การชุมนุมตระกูลต่างๆในครั้งนี้เป็นการชัดเจนแล้วว่าเป็นกับดัก,พวกเราไม่ควรที่จะเข้าร่วม!"เย่จัวขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา.

เย่จุนจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอ,กล่าวออกมาว่า,"เป็นความจริง,นี่เป็นกับดักไม่ผิด,ทว่าตระกูลจันทราทมิฬนั้นได้เชิญตัวแทนพิเศษจากราชสำนักราชวงศ์ศักดิ์สิทธ์มาด้วย,ข้าเกรงว่าตระกูลจันทราทมิฬนั้นจะเล่นลูกไม้ไม่ซื่อ,ไม่ว่าพวกเราจะเข้าหรือไม่,ข้าก็เกรงว่ามันจะมีปัญหาเป็นอย่างยิ่ง."

"ตัวแทนพิเศษราชสำนักราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์รึ?"เย่ซิงเหอเองก็คิดว่าตระกูลจันทราทมิฬที่รวมตัวตระกูลต่างๆในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายแน่นอน,ทว่าด้วยการที่พวกเขาให้ตัวแทนราชสำนักราชวงศ์ศักดิ์สิทธ์เข้าร่วมด้วยนี้คงมีความหมายมากกว่านั้น,"หากว่าพวกเราไม่เข้าร่วม,พวกเราคงจะยิ่งถูกกล่าวหาว่าต่อต้านมากยิ่งกว่าเดิมแน่,ยิ่งอยู่ต่อหน้าของตัวแทนราชสำนักราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยแล้วพวกเขาจะต้องไม่อภัยพวกเราอย่างแน่นอน,หากว่าพวกเราเข้าร่วมพวกเรายังสามารถจับตามองดูแผนสกปรกของพวกเขาได้."

"อืม."เย่จุนพยักหน้า,เขาจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอ,"ข้าเองก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าข้าจะเป็นคนเข้าร่วมชุมนุมตระกูลต่างๆครั้งนี้เอง,หากว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นในงานชุมนุม,ตระกูลขนนกสีฟ้าก็ยังมีเจ้า!"

เย่จุนเองนั้นได้ตัดสินใจว่าเขาจะเข้าร่วมการชุมนุม,ถึงแม้ว่าเขาต้องตาย,ก็คงไม่มีผลกระทบมากมายนัก,ถ้าเขาตายไปตระกูลขนนกสีฟ้าก็ยังมีเย่จัวและเย่ซิงเหอ,เขาเองก็ยังรู้สึกเบาใจ.

"ท่านลุงประมุข,ในเมื่อท่านตัดสินใจเช่นนั้นข้าจะไปกับท่านด้วย,ตระกูลจันทราทมิฬนั้นไม่มีสิ่งใดที่จะต้องหวาดเกรง."เย่ซิงเหอขบคิดชั่วขณะก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ขึงขัง.

"ซิงเหอ,เจ้าไม่ควรไป,ตอนนี้เจ้าคือความหวังหนึ่งเดียวของตระกูลขนนกสีฟ้า,หากว่ามีเหตุร้ายขึ้น,จะทำให้ตระกูลขนนกสีฟ้าของเราอยู่ต่อได้อย่างไร?"เย่จุนกล่าวออกมาทันควันซึ่งเขาเองนั้นได้ตัดสินใจที่จะตายอยู่แล้ว,เขานั้นตายได้,แต่ว่าเย่ซิงเหอจะต้องไม่ตาย!

"ท่านลุงประมุข,ข้าต้องการจะชี้แจ้งให้รู้ไว้,พวกเรานั้นหลังจากนี้จะต้องเปิดศึกกับตระกูลจันทราทมิฬ,ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในเวลานี้ที่พวกเราจะไปหยั่งเชิงศัตรู,ข้านั้นมีองค์หญิงไปด้วย,ด้วยการมีองค์หญิงนั้น,ข้าคิดว่าตระกูลจันทราทมิฬต้องหวั่นเกรงพวกเราอยู่ไม่ใฃ่รึ?"เย่ซิงเหอจ้องมองไปยังเย่จุน,เพื่อกล่าวให้วางใจ.

"แต่!.."เย่จุนกำลังลังเล,เป็นความจริงหากว่ามีองค์หญิง,ตระกูลจันทราทมิฬคงไม่กล้าทำการบุ่มบ่ามอย่างแน่นอน,เขารู้สึกสองจิตสองใจเหมือนกัน.

"ท่านลุงประมุขโปรดวางใจ,ด้วยสถานะการณ์เช่นนี้ไม่ได้ถือว่ารุนแรงนัก,นอกจากนี้พวกเรายังจะนำเจ้าเขี้ยวขาวไปอีกด้วย,"เย่ซิงเหอเผยยิ้มออกมา.

เจ้าเขี้ยวขาวนั้นคือหมาป่ายักษ์สีขาวนั่นเอง,ซึ่งเป็นชื่อที่เซี่ยหยุนหนิงได้ตั้งให้กับมัน.

เย่จุนพยักหน้า,แสดงความเชื่อใจในตัวเย่ซิงเหอ,ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของเจ้าหมาป่าสีขาวนั่นได้ก็ตาม,ทว่าเขาเองก็คิดว่าเจ้าหมาป่าสีขาวนั่นคงจะมีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวมากอย่างแน่นอน,ด้วยเหตุผลสองอย่างนี้,เย่ซิงเหอจะสามารถกลับมาโดยปลอดภัยได้เป็นแน่.

"พี่ใหญ่,ในเวลานี้ท่านให้ข้ากับเย่ซิงเหอไปดีกว่า,"เย่จัวกล่าวขึ้นมาอีกคน.

เย่จุนส่ายหน้า,จ้องมองไปยังเย่จัวแล้วกล่าวว่า,"เจ้าต้องอยู่ที่ตระกูล,มีเพียงข้ากับเย่ซิงเหอก็พอ,หลังจากข้าไปแล้ว,เรื่องทุกอย่างในตระกูลนั้น,ต้องเป็นเจ้าเป็นคนจัดการแล้ว!"

ไม่ว่าเย่จัวจะกล่าวอ้างอย่างไร,เย่จุนคิดว่ามีเพียงเย่จัวเท่านั้นที่เขามั่นใจให้ดูแลตระกูล.

"การชุมนุมเหล่าตระกูลต่างๆนั้น,ตระกูลจันทราทมิฬได้บอกกล่าวให้หัวหน้าตระกูลต้องไป,ข้าไม่ไปแล้วเกรงว่ามันจะดูไม่เหมาะสม,ดังนั้นยังไงข้าก็ต้องไป,"เย่จุนได้บอกกล่าวความคิดออกมา.

"งั้นก็ได้."เย่จัวตอบรับอย่างอิดออด.

การจัดงานชุมนุมของตระกูลจันทราทมิฬนั้น,เย่ซิงเหอจะต้องจับตาดูพวกเขาเป็นอย่างดี,ด้วยการชุมนุมตระกูลต่างๆในแต่ล่ะปี,ในอดีตที่ผ่านมาท่านลุงประมุขเขาก็ได้เข้าร่วมทุกปี,มันช่างเป็นงานที่น่าเบื่อและย่ำแย่สำหรับตระกูลขนนกสีฟ้าเป็นอย่างมาก,หากแต่ในเวลานี้มีเรื่องที่ไม่สู้ดีนัก,การชุมนุมที่ไม่ค่อยจะมีอะไร,ทว่าตอนนี้มันจึงมีเรื่องที่พอจะคาดเดาได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องนัก.

หากว่าตระกูลจันทราทมิฬคิดว่าตัวตนของตระกูลขนนกสีฟ้าเป็นเหมือนเมื่อก่อนที่จะสามารถเหยียดหยามได้ล่ะก็,นั่นจะต้องกลายเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมหันต์แน่.

หลังจากที่ท่านลุงประมุขและบิดาของเขาได้จากไป,เย่ซิงเหอก็ได้นั่งสมาธิอีกชั่วระยะเวลาหนึ่งเป็นเวลานานอย่างสงบ,เขาเองก็รับรู้ได้ถึงไหล่ของตัวเองที่แบกรับความรับผิดชอบอยู่อย่างหนัก,ด้วยความกดดันภายในใจ,ทำให้เขานั้นแทบจะไม่กล้าพักเลย,เขาจะต้องบำเพ็ญพลังอย่างเต็มกำลัง.

หลังจากที่เย่จุนและเย่จัวไปแล้ว,เย่ซิงเหอก็ยังคงบำเพ็ญพลังต่อไป,ทันใดนั้นเหมือนกับว่าเขาจะนึกถึงอะไรบางสิ่งได้,ป้ายตราประจำตระกูลขนนกสีฟ้าเขาได้นำมันออกมา.

ด้วยรูปสลักปลาคาร์ปเทวะสีน้ำเงินบนเนื้อหยก,มันเป็นสิ่งของที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นของตระกูลขนนกสีฟ้า.

แม้ว่าเขานั้นจะไม่ใช่ประมุขตระกูล,ตลอดจนการที่เขาได้รับป้ายตราประจำตระกูลมา,เย่ซิงเหอเองก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกมากมายนับไม่ถ้วนของเหล่าบรรพบุรุษจากรุ่นเก่าแก่ยุคโบราณที่ถูกส่งออกมาจากมัน.

สายเลือดของตระกูลขนนกสีฟ้านั้นจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน,หากแต่มันกับขาดหายไปสำหรับความลับดังกล่าว.

เขาลูบคลำไปที่หยกสลักปลาคาร์ปสีน้ำเงินเบาๆ,ด้วยความรู้สึกเลือนๆถึงพลังที่ลึกลับกำลังส่งออกมาเป็นระลอกๆ,แพร่กระจายออกมาจากหยกสลักปลาคาร์ปสีน้ำเงินนี้,ราวกับว่ามันกำลังชักนำอะไรบางสิ่งออกมา,ส่งผ่านเข้ามายังร่างกายของเย่ซิงเหอโดยตรง,จากนั้นก็รวมเข้ากับทะเลจิตสำนึกที่อยู่ภายในของเขา.

ความรู้สึกที่คลุมเคลือที่เย่ซิงเหอได้รับนั้นมันเริ่มที่จะชัดเจนขึ้น,มันได้ปรากฏขึ้นที่ศิลาจารึกโบราณที่สูงใหญ่พร้อมกับสิ่งก่อสร้างที่ตั้งตระหง่าน,โดยรอบๆนั้นล้อมรอบไปด้วยเสาแห่งดวงดารา 12 ต้น,ซึ่งเขาเห็นในตอนนี้นั้นมันชัดเจนเหมือนกว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก.

ปลาคาร์ปเทวะที่เหอะเหินบนท้องฟ้าจิตสำนึก,ทะเลรอบๆเกิดคลื่นกระทบสาดกระเซ็นไปทั่ว,ราวกับว่าพวกมันเริ่มที่จะรู้สึกได้พร้อมกับกระจายความหนาวเย็นที่เสียดแทงออกไปรอบๆ.

เย่ซิงเหอยืนอยู่ใจกลางของพลังที่ลึกลับนั่น,มีความคิดหนึ่งภายในใจเขาที่รู้สึกได้ถึงความกว้างใหญ่,พลังอำนาจแห่งดวงดาได้พลุ่งพล่านเชี่ยวกราก,ด้วยการนั่งสมาธิตอนนี้,ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกถึงมันได้,ที่มุมปากของเขายกขึ้นเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม,ราวกับว่าเขานั้นสามารถที่จะเข้าสภาวะที่มหัศจรรย์และหยุดนิ่งอย่างช้าๆ.

เมื่อเย่ซิงเหอดูซับพลังงานจากภายนอก,วูซซ,เหมือนกับว่ามีแสงสีน้ำเงินคลุมไปทั่วร่างของเขา,พร้อมกันนั้นปรากฏมีใครบางคนได้มามาอยู่ต่อหน้าของเย่ซิงเหอ,พร้อมกับใบหน้าของหล่อนที่บ่งบอกถึงความประหลาดใจ,แม้ว่าจะไม่เคยมีใครเห็นใบหน้าของหล่อนมาก่อน,หากแต่ด้วยกลิ่นอายแห่งความสง่างามที่ถูกขับออกมานั้นหล่อนต้องเป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดโดยไม่สามารถอธิบายได้เลยทีเดียว,ด้วยสายตาที่จ้องมองอย่างจริงจัง,เป็นความจริงที่หล่อนนั้นต้องการยืนยันเรื่องบางเรื่องที่หล่อนนั้นได้เห็น,ใบหน้าที่สมบูรณ์นั่นกำลังขมวดเข้าหากัน.

ใช่แล้ว,คนคนนี้ก็คือซ่างกวนซูอาน.

ซ่างกวนซูอานจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอพร้อมกับหยกสลักรูปปลาคาร์ปที่อยู่ในมือของเขา,พลางถอนหายใจยาวด้วยท่าทางที่ยากจะหยั่งถึงด้วยการเห็นหยกสลักรูปปลาคาร์ปพร้อมกับพึมพำออกมาว่า,"ข้าได้ถูกส่งต่อหน้าที่เอาไว้จนถึงตอนนี้,ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะอยู่ในมือของเจ้า,คนที่จะช่วยข้าทำลายผนึกจะต้องเป็นเจ้า,ด้วยหยกสลักรูปปลาคาร์ปที่อยุ่ในมือของเจ้าแล้ว,นี่ก็หมายถึงโชคชะตาของเจ้าไม่สามารถที่จะหลบหนีจากมันได้แล้วสินะ?"

ที่มาจากhttp://lnmtl.com/novel/star-martial-god-technique

#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย

Author(s)

Mad Snail
"ทากพิศดาร"(ฟาเปียว เตอะ วอหนิว) ผู้ประพันธ์

https://www.facebook.com/shareebookandducumentfree/