Star Martial God Technique Chapter 120 Randomly my disposition

Star Martial God Technique Chapter 120 Randomly my disposition

นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่ 120 ยับยั้งชั่งใจ

บทที่ 120 ยับยั้งชั่งใจ

ซ่างกวนซูอานจ้องมองไปยังเย่ซิงเหออย่างนิ่งงั้น,,ดูเหมือนว่าคำที่หล่อนพูดนั้นอาจจะดูเกินจริงไปหน่อย.

"ถูกแล้ว,ฝึกบำเพ็ญผสานกาย,ในโลกนี้มีหยินแล้วก็ต้องมีหยาง,มีความมืดก็ต้องมีแสงสว่าง,มีเข้ากันได้และเข้ากันไม่ได้,พลังอำนาจแห่งดวงดารานั้นก็เหมือนๆกัน,มีเข้ากันได้และตรงข้ามกันซึ่งต่างจากศิลปะการต่อสู้อื่นๆ,การที่จะสามารถเชื่อมพลังทั้งสองให้เข้ากันนั้น,มันจะสามารถปะทุพลังดังกล่าวนั่นออกมาในทันที,มากมายยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าหรือมากกว่าสิบเท่าเลยทีเดียว!"

"หากแต่,จำต้องฝึกฝนเป็นคู่สินะ,ทำให้ข้านั้น.."เย่ซิงเหอเพ่งพิศ,ด้วยการฝึกผสานกายนี้เขาจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร?

"เส้นทางของการฝึกผสานกายนั้นก็เหมือนกับสวรรค์ที่คู่กับปฐพี,ดวงจันทร์ที่ต้องคู่กับดวงอาทิตย์,พลังหยินและหยางคอยเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน,ผสานกันเพื่อสร้างปาฏิหาริย์"ซ่างกวนซูอานนั้นได้กล่าวออกมาราวกับว่ามันเป็นเพียงเรื่องธรรมดาทั่วไปเท่านั้น.

ใบหน้าของเย่ซิงเหอถึงกับร้อนผ่าว,ด้วยการฝึกผสานกายนี้จะสามารถทำให้วรยุทธ์ของเขานั้นก้าวกระโดดได้อย่างงั้นรึ?แล้วใครเล่าที่เขาควรจะให้มาช่วยเขาฝึกกันล่ะ?ภายในสมองของเย่ซิงเหอนั้นความรู้สึกแรกคนที่เขาต้องการให้มาช่วยฝึกคืออันซุยหยุน,ทว่าอันซุยหยุนจะยินยอมอย่างงั้นรึ?หากแต่ตอนนี้จะสามารถนำตัวหล่อนมาได้หรือไม่ก็ไม่รู้.

คนที่สองในใจนั้น,ก็คือเซี่ยหยุนหนิง.

ทันใดนั้นเย่ซิงเหอก็ส่ายหัวไปมาอย่างรุนแรง,เขาจะต้องถอนความคิดแปลกๆนั้นออกไปจากหัวของเขา.

"การฝึกผสานกายของผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งดวงดารานั้น,จะต้องใช้คนสองคนเพื่อบำเพ็ญพลังอำนาจแห่งดวงดารา,ด้วยการใช้ร่างกายไหล่เวียนหล่อเลี้ยงพลัง,เมื่อพลังอำนาจแห่งดวงดาราเข้าไปอยู่ในร่างกายของคนทั้งสองมันจะถูกผสานไหลเวียนเติบโตขึ้นมา,หากแต่การกระตุ้นบำเพ็ญพลังนั้นจำเป็นต้องใช้พลังหยินและหยางทั้งสองชนิด,เพื่อที่จะหมุนเวียนถ่ายเทเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน,ให้มันไหลเวียนไปมาภายในร่างของคนทั้งสอง,โดยเฉพาะอย่างยิ่งวรยุทธ์ของเจ้าที่เป็นผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งดวงดาราที่ใช้วิชาชั้นสูง,วิชาเทพการต่อสู้แห่งดวงดารา.

เย่ซิงเหอถึงกับสะดุ้งตกใจอย่างรุนแรง,ท่านหญิงซ่างกวนสามารถที่จะมองวรยุทธ์ของเขาที่ใช้การบำเพ็ญพลังวิชาเทพการต่อสู้แห่งดวงดาราได้เลยอย่างงั้นรึ?

"การบำเพ็ญพลังผสานกายนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องใช้พลังอำนาจแห่งดวงดาราเพื่อที่จะให้ถ่ายเทหมุนเวียนพลังร่วมกันของคนทั้งสอง,ใช่หรือไม่?"เย่ซิงเหอพอจะเข้าใจได้ในทันที,การบำเพ็ญพลังผสานกายที่ซ่างกวนซูอานกล่าวถึงในตอนแรกนั้นมันมีความหมายที่ซ่อนไว้เช่นนี้นั่นเอง,หากแต่เขากลับคิดไปไกลเลยทีเดียว.

"ใช่แล้ว,ทว่าการฝึกบำเพ็ญผสานกายนั้น,คนทั้งสองต้องเปลือยกาย,พร้อมกับไว้ใจซึ่งกันและกัน,เพื่อให้รู้แจ้งในเจตจำนงร่วมกัน,เพื่อที่จะให้สามารถเข้าใจในวิถีแห่งสรรพสิ่งได้."ซ่างกวนซูอายเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

เย่ซิงเหอรู้สึกอักอ่วนเล็กน้อยเหมือนกัน,เขาคิดว่าการบำเพ็ญผสานกายนั้นแค่เพียงหมุนเวียนเกื้อหนุนพลังอำนาจแห่งดวงดาราร่วมกันเพียงเท่านั้น,หากแต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องเปลือยกายเพื่อที่จะบำเพ็ญพลัง.

"การบำเพ็ญพลังผสานกายนี้,จำต้องใช้ผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งดวงดาราสองคนอย่างงั้นรึ?"

"นั่นไม่จำเป็น,พลังอำนาจแห่งดวงดารานั้นมีลักษณ์ที่มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก,ผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งมังกรและผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งเปลวเพลิงก็สามารถบำเพ็ญพลังอำนาจแห่งดวงดาราได้กันได้ทั้งนั้น,หากแต่พวกเขาเลือกที่จะฝึกบำเพ็ญพลังอำนาจแห่งมังกรหรือไม่ก็พลังอำนาจแห่งเปลวเพลิง,พวกเขานั้นไม่ต้องการที่จะบำเพ็ญพลังอำนาจแห่งดวงดาราเลย,ดังนั้นผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งดวงดาราจึงได้มีน้อยอย่างที่เห็น."ซ่างกวนซูอานกล่าวต่อไปอีกว่า,"นี่คือแผนภาพในการโคจรพลัง,เจ้ารับไว้ซิ,เจ้าจะบำเพ็ญพลังดังกล่าวหรือไม่,เจ้าจ้องต้องใคร่ครวญมันด้วยตัวเจ้าเอง."

"ท่านหญิงซ่างกวน,ทำไมท่านถึงต้องช่วยข้าขนาดนี้ด้วยล่ะ?"เย่ซิงเหอกล่าวออกมาอย่างซาบซึ้งใจ.

"ทำไมถึงต้องช่วยเจ้ารึ? ในอีกเหตุผลหนึ่งนั้นเพราะว่าเจ้าต้องช่วยปลดผนึก,อึกเหตุผลหนึ่งนั้น,ข้าและบรรพบุรุษขอเจ้านั้น,มีเชื้อสายเดียวกัน."ซ่างกวนซูอานจ้องมองออกไปยังความว่างเปล่า,ราวกับว่ากำลังนึกถึงเรื่องต่างๆที่เคยเกินขึ้นมานานแล้ว.

ซ่างกวนซูอานที่อยู่กับเขาตอนนี้ด้วยท่าทางเหมือนดั่งหญิงสาว 15 หรือ 16 ปีเท่านั้นเอง,หากแต่มีเชื้อสายร่วมกันบรรพบุรุษเลยอย่างงั้นรึ?นอกจากนี้เย่ซิงเหอก็รู้สึกคลุมเคลือเกี่ยวกับผนึกที่ซ่างกวนซูอานกล่าวถึงนั้นหมายถึงสิ่งใดกันรึ?

น่าเสียดายที่ซ่างกวนซูอานมีนิสัยที่ยากหยั่งถึง,เย่ซิงเหอจึงไม่สามารถที่จะสนิทชิดเชื้อกับหล่อนได้,ซ่างกวนซูอานเงียบไปชั่วขณะ,เย่ซิงเหอเองก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรออกไปอีก.

ด้วยการหายใจเข้าคำโต,จากนั้นซ่างกวนซูอานก็ได้พ่นลมหายใจที่เย็นเยือบออกมา,จากนั้นก็หายไปโดยไร้ร่องรอย.

ไม่ว่าจะเวลาไหนหล่อนก็ทำให้รู้สึกราวกับว่าไม่ใช่มนุษย์หากแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ห่อหุ้มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายอยู่ตลอดเวลา.

เย่ซิงเหอจ้องมองลงไปดูแผนภาพที่ซ่างกวนซุอานมอบให้,ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็แดงขึ้นมาทันที.แผนภาพที่อยู่นี้,ช่างดูอึดอัดใจยิ่งนัก,หญิงสาวดั่งเช่นซ่างกวนซูอาน,มีสิ่งของเช่นนี้ซ่อนไว้ช่างคาดไม่ถึงจริงๆ.

"ด้วยแผนภาพนี้,ข้าควรที่จะทำอย่างไร?"เย่ซิงเหอเป็นกังวล,เขาคิดว่าคงต้องซ่อนสิ่งดังกล่าวไว้ก่อน,จากนั้นค่อนใคร่ครวญที่จะบำเพ็ญพลังด้วยวิธีดังกล่าวนั้นอีกครั้ง.

ในขณะเดียวกันนั้น,ประตูห้องของก็เปิดขึ้นมาทันที,เซี่ยหยุนหนิงได้เดินเข้ามาด้านใน,พอจะใคร่ครวญได้ว่าหล่อนนั้นเหมือนกับเพิ่งแต่งตัวเสร็จ,เส้นผมที่ถูกรวบสูงขึ้น,เผยออกมาให้เห็นจุดยั่วยวน,หล่อนสวมชุดผ้าไหมสีขาวเข้ารูป,เสื้อคอลึกที่มองเห็นผิวด้านใน,ช่างเป็นอะไรที่มีเสน่ห์ยิ่งนัก.

บอกได้เลยว่าเซี่ยหยุนหนิงนั้นช่างสวยงามยิ่งนัก,ภายในใจของเย่ซิงเหอนั้นถึงกับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก.เซี่ยหยุนหนิงที่อยู่ตรงหน้าช่างน่าประทับใจจริงๆ,เซี่ยหยุนนหนิงนั้นแต่งตัวมาเพื่อเขาอย่างงั้นรึ,ด้วยสถานะองค์หญิงจึงทำไห้เขานั้นไม่กล้าที่จะแสดงออกถึงความรู้สึก,หากแต่เย่ซิงเหอเองก็หาได้ใช่พระอิฐพระปูน.

เพียงเห็นเซี่ยหยุนหนิงกำลังก้าวเข้ามา,พลางมองมาที่แผนภาพนั้น,ภายในใจของเย่ซิงเหอถึงกับสั่นไหวแทบจะอธิบายออกมาไม่ได้,เขาจึงได้เริ่งรีบที่จะซ่อนแผนภาพโคจรพลังในทันที.

"เย่ซิงเหอ,เจ้าเพิ่งจะซ่อนสิ่งใดกันนั่น?"เซี่ยหยุนหนิงขยิบตาที่ปราณีตของหล่อน,พร้อมกับจ้องมองไปยังเย่ซิงเหออย่างสงสัย.

"ไม่มีสิ่งใดนิ."เย่ซิเหอส่ายหน้าไปมาอย่างรีบเร่ง.

"จะไม่มีได้อย่างไร,ข้าเห็นอยู่ว่าเจ้านั้นซ่อนอะไรเอาไว้!"เซี่ยหยุนหนิงแค่นเสียง,"พลางยืนมือออกไปยังสิ่งดังกล่าว."

"มันหาได้ใช่สิ่งสำคัญ,ทำไมข้าจะต้องให้เจ้าดูด้วยล่ะ,อีกอย่างเจ้าตอนนี้ไม่ใช่องค์หญิงแล้วนะ,ทำไมยังต้องฟังคำสั่งเจ้าด้วย."สายตาของเย่ซิงเหอนั้นเปลี่ยนไปมองสถานที่อื่น,เขาแสดงท่าทางขัดขืนเล็กน้อย,จะให้หญิงสาวคนหนึ่งเห็นสิ่งนี้ได้อย่างไรล่ะ?

ยิ่งเย่ซิงเหอนั้นไม่กล้าที่จะสบตาหล่อน,ภายในใจของเซี่ยหยุนหนิงก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นสิ่งดังกล่าว.

อะไรที่เย่ซิงเหอกำลังซ่อนอยู่อย่างงั้นรึ?

"ซิงเหอ,เจ้ามองตาข้า."เซี่ยหยุนหนิงขยับเข้าใกล้เขา,ด้วยสัมผัสนั่น,ด้วยเสียงที่อ่อนนุ่มแทบจะทำให้บุรุษทุกคนรวยระรินไปถึงกระดูก,แขนทั้งสองข้างของหล่อนจับไหล่ทั้งสองข้างของเย่ซิงเหอไว้พลางจ้องมองไปที่ดวงตาของเย่ซิงเหอเขม็งไม่หันไปใหน.

กลิ่นหอมอ่อนๆของหญิงสาวได้ผ่านเข้ามายังจมูกของเขา,ด้วยแผนภาพโคจรพลังชิ้นนี้,เขาจะต้องเก็บไว้ไม่ให้หล่อนเห็น,เย่ซิงเหอในตอนนี้รู้สึกว่าที่ริมฝีปากของเขาถึงกับแห้งผาก,ภายในใจยิ้มออกมาอย่างขมขื่น,เขาต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอเพื่อที่จะหักห้ามใจ,ไม่รู้เลยว่าเซี่ยหยุนหนิงรู้หรือไม่ว่าหล่อนกำลังเล่นกับไฟ?เย่ซิงเหอรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะสูญเสียสมาธิและการยับยั้งชั่งใจ,ทันใดนั้นมือของเซี่ยหยุนหนิง,ก็คว้าไปที่แผนภาพนั้นมา.

"ฮ่า ฮ่า,ได้มาแล้ว!"บนใบหน้าของเซี่ยหยุนหนิงเผยออกมาถึงความพึงพอใจและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์,"เย่ซิงเหอ,จ้าคิดจริงๆรึจะสามารถแข็งขืนกับแผนยุแหย่ของข้าได้!"

เซี่ยหยุนหนิงยกใบหน้าขึ้นอย่างเฉิดฉาย,ส่งเสียงเหวยๆ,อย่างภูมิใจ.

เย่ซิงเหอเองไม่รู้เลยว่าจะต้องหัวเราะหรือร้องไห้ออกมา,หากว่าเขาไม่ได้เห็นแผนภาพก่อน,เขาคงจะไม่เสียสมาธิจนโดนเซี่ยหยุนหนิงล่อหลอกเอาได้.

"ในเมื่อเจ้าต้องการ,ก็ดูจนกว่าจะพอใจเถอะ."เย่ซิงเหอยิ้มออกมาอย่างขมขื่น.

"ข้าจะต้องดูมันแน่นอนอยู่แล้ว,หากแต่เจ้าต้องซ่อนด้วยเหตุใดกัน."เซี่ยหยุนหนิงบุ้ยปาก,จ้องมองไปยังแผนภาพดังกล่าว,หล่อนเพ่งพิศ,พร้อมกับอุทานออกมาเบาๆ,ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า,พร้อมกับบ่นออกมา."เย่ซิงเหอ,เจ้ากำลังดูอะไรกันนี่?!"

เย่ซิงเหอพยายามฝืนยิ้มแหยๆก่อนจะกล่าวว่า,"ข้าเพิ่งจะได้รับสิ่งนี้มา."

แม้ว่าเซี่ยหยุนหนิงจะบอกกล่าวว่าทะลึ่ง,หากแต่ก็ยังมองไปยังแผนภาพดังกล่าวไม่วางตาก่อนที่จะจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอพร้อมกับกล่าวออกมาอย่างยั่วยวน."ที่อยู่ในแผนภาพดูน่าสนใจเหมือนกัน,เจ้าอยากจะให้ข้าทำอย่างงั้นกับเจ้าหรือไม่?"

ผีสางเทวดา!

นี่หล่อนจงใจออย่างแน่นอน!

ได้ยินคำพูดของเซี่ยหยุนหนิงแล้ว,หัวใจของเย่ซิงเหอถึงกับสั่นไหวไปมา,เขาเองพยายามที่จะสงบใจไว้ไม่ให้ตื่นเต้น,กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างระมัดระวัง,"เจ้าต้องการจะทดสอบความยับยั้งชั่งใจของข้าอย่างงั้นรึ?"

ที่มาจากhttp://lnmtl.com/novel/star-martial-god-technique

#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย

Author(s)

Mad Snail
"ทากพิศดาร"(ฟาเปียว เตอะ วอหนิว) ผู้ประพันธ์

https://www.facebook.com/shareebookandducumentfree/