Star Martial God Technique Chapter 131 Heavenly Dragon buried treasure
นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่ 131 สมบัติมังกรสวรรค์ตกทอด
บทที่ 131 สมบัติมังกรสวรรค์ตกทอด
"ข้าเข้าใจความตั้งใจของเจ้า."เย่ซิงเหอเงียบไปชั่วขณะ.ก่อนที่จะกล่าวไปว่า,"ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว,ทำไมเจ้าไม่บอกออกมาเลยว่าเจ้าต้องการที่จะทำสิ่งใด?"
เหลียงหยูเผยยิ้มออกมา,เขาเข้ามาอยู่ด้านข้างของเย่ซิงเหอ,พลางกระซิบด้วยเสียงเบาๆไปที่หูของเย่ซิงเหอ.
เย่ซิงเหอขมวดคิ้วขยับไปมาครุ่นคิด,ชั่วระยะเวลาหลังจากนั้น,เขาจ้องมองไปยังเหลียงหยูก่อนที่จะกล่าวว่า,"ก็ได้,ทำตามที่เจ้าบอกได้เลย!"
"เยี่ยม,ขอบคุณพี่ชิงเหอที่ช่วยเหลือ,ข้าคงต้องขอลาก่อน!"เหลียงหยูจ้องมองเขาอย่างตื่นเต้น,พลางยกมือคารวะมาที่เขาก่อนที่จะจากไป.
"อืม."เย่ซิงเหอพยักหน้า.
เหลียงหยูกระโดดพร้อมกับเดินทางจากไป,บอกได้เลยว่าเรื่องดังกล่าวเขาไม่กล้าที่จะอยู่เนิ่นนาน,หลังจากที่ตระกูลขนนกสีฟ้านั้นมีคนของตระกูลจันทราทมิฬคอยจับตาอยู่,หากเหลียงเซี่ยงนั้นรู้ว่าเขาและเย่ซิงเหออยู่ด้วยกัน,หลังจากที่กลับไปที่ตระกูล,เขาอาจจะโดนสังหารก็เป็นได้.
เย่ซิงเหอจ้องมองไปยังเหลียงหยูที่กำลังจากไปด้วยท่าทีที่ลุ่มลึก,เหลียงหยูคนนี้,มีแผนการที่ล้ำลึกนัก,หากต้องคบค้ากับคนเช่นนี้จำต้องระมัดระวังให้ดี,ด้วยคนผู้นี้จะมองแต่ผลประโยชน์มาก่อน,เป็นได้ทั้งมิตรและเป็นได้ทั้งศัตรูในเวลาเดียวกัน.
เย่ซิงเหอได้กลับมายังตระกูลขนนกสีฟ้า.
"ซิงเหอ,เจ้า,หากว่าเจ้าจะก่อสงครามกับตระกูลจันทราทมิฬล่ะก็,เพราะว่าข้านั้นเป็นรองอาจารย์ใหญ่ของสถาบันดาราสวรรค์,ด้วยศักดิ์ฐานะการเป็นอาจารย์ของสถาบันแล้วข้าคงจะไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวพันธ์กับข้อขัดแย้งของเหล่าตระกูลขุนนางได้."รองอาจารย์ใหญ่ซูจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอ,พร้อมกับกล่าวขอโทษกับเรื่องดังกล่าว,"ก่อนหน้านี้ที่ได้ไปช่วยเจ้าที่ตระกูลจันทราทมิฬ,มันก็ค่อนข้างล้ำเส้นของข้าไปแล้ว,หากว่าต้องมีคนตายจากฝีมือข้า,แน่นอนว่าชั่วชีวิตของข้า,ข้าคงไม่สามารถเป็นอาจารย์ได้,เจ้าคงจะไม่ตำหนิข้าหรอกนะ."
"ท่านอาจารย์,ท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว,ก่อนหน้าที่ท่านช่วยเราที่ตระกูลจันทราทมิฬั้น,ก็มากพอแล้ว,ข้าเข้าใจว่าท่านเป็นห่วง,ข้าเองก็ไม่ต้องการที่จะให้ท่านเข้ามาเกี่ยวพันเลย."เย่ซิงเหอกล่าวออกมาด้วยความเคารพต่อรองอาจารย์ใหญ่ซูที่มีพระคุณกับเขาเป็นอย่างมาก,เขาเองก็ไม่ต้องที่จะให้รองอาจารย์ใหญ่ซูเป็นกังวล.
"อืม,ซิงเหอ,ข้าก็ต้องการเตือนเจ้าอย่างหนึ่ง,ไม่รู้ว่าเจ้าจะรับฟังมันรึไม่,เบื้องหลังของตระกูลจันทราทมิฬนั้น,ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถยุแหย่ได้,หากว่าเจ้ายังต้องการที่จะปกป้องตระกูลขนนกสีฟ้าล่ะก็,จงคิดใครครวญให้ดี."รองอาจารย์ใหญ่ซูกล่าวอย่างเป็นห่วงเป็นใย.
"ท่านอาจารย์,แม้ว่าข้าต้องการปกป้องตระกูลขนนกสีฟ้า,ทว่าก็ต้องมีคุณธรรมและยุติธรรมด้วย,การที่พวกเราจะต้องทำสงครามกับตระกูลจันทราทมิฬนั้น,เพราะพวกเขานั้นได้ล้ำเส้นดังกล่าว,ทุกคนต่างเดือดพล่านด้วยความขุ่นเคือง,ไม่มีใครที่จะสามารถทนความไม่ยุติธรรมได้,นี่จึงเพียงแค่การถามหาความยุติธรรมไม่ใช่รึ?"เย่ซิงเหอยักคิ้วขึ้น,ภายในดวงตาของเขานั้นมีแววตาที่อ่อนโยนและความหนักแน่นมั่นคง.
เรื่องดังกล่าวนี้ท่านลุงประมุขและบิดาของเขา,พวกเขาต่างก็ยอมรับ.
เพราะว่าพวกเขานั้นเกือบที่จะโดยทำลายล้างตระกูลโดยตระกูลจันทราทมิฬมาแล้ว,ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถที่จะเข้าใจ,ความเจ็บปวดของตระกูลอื่นๆที่ต้องประสบ,ก่อนหน้าที่ตระกูลขนนกสีฟ้าจะลุกขึ้นต่อต้านตระกูลจันทราทมิฬนั้น,ตระกูลใต้อาณัติทั้ง
15 ตระกูลต่างก็เข้าใจอยู่แล้ว,ตอนนี้บางคนในพวกเขาถูกสังหารจนเหลือไม่กี่ร้อยคนและบางตระกูลก็เหลือไม่กี่สิบคน,บางตระกูลนั้นไม่มีใครเหลืออยู่เลย,หากว่าเขานั้นไม่ช่วยตระกูลเหล่านี้ทวงความเป็นธรรม,แล้วจะหาใครได้อีกเล่า?
ถึงแม้ว่าตระกูลขนนกสีฟ้าจะต้องจบสิ้นไม่เหลือสักคนในครานี้,เรื่องดังกล่าวก็จำต้องทำ!
เหล่าคนผู้ประสบเหตุจะอดทนต่อสิ่งดั่งกล่าวได้อย่างไร,ด้วยสิ่งที่พวกเขาได้รับ,ด้วยเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นกับตระกูลขนนกสีฟ้า,เรื่องที่เกิดขึ้นกับอาของเขาตั้งแต่เมื่อคราเขายังเด็ก.ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันสะสมขึ้นทีละเล็กละน้อยจนมันยากที่จะอดกลั้นได้แล้ว.
"ข้าเข้าใจ."รองอาจารย์ใหญ่ซูพยักหน้า,เขาจ้องมองไปยังเย่ซิงเหออย่างลึกซึ้ง,"ข้านั้นภาคภูมิใจที่มีศิษย์เช่นเจ้า,สงครามในครั้งนี้ข้าคงทำได้แค่เป็นผู้สังเกตุการ,ถ้าหากว่าเจ้าไม่สามารถที่จะรอดพ้นจากเงื้อมมือตระกูลจันทราทมิฬได้,ข้าก็จะเข้าช่วยเหลือเจ้าเอง."
"ท่านอาจารย์,เรื่องจัดการตระกูลจันทราทมิฬนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะ,ทว่าหากอาจารย์ต้องการที่จะช่วยรบกวนอาจารย์ช่วยอีกเรื่องหนึ่ง."เย่ซิงเหอยกมือคารวะไปด้านหน้า.
"เรื่องอะไร,เจ้ากล่าวมาได้เลย."รองอาจารย์ใหญ่ซูกล่าว.
"ขณะพวกเราเดินทางไปจัดการตระกูลจันทราทมิฬนั้น,ข้าต้องการที่จะให้อาจารย์ปกป้องตระกูลของข้าด้วย."เย่ซิงเหอกล่าวออกมาด้วยเขาจำต้องนำกำลังออกไปเป็นจำนวนมาก,ดังนั้นเย่ซิงเหอจึงรู้สึกเป็นกังวลใจอย่างแน่นอน,ทว่าหากมีอาจารย์ใหญ่ซูอยู่ด้วยล่ะก็,ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก.
"อืม,เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าทีของข้า!"รองอาจารย์ใหญ่ซูพยักหน้า.
เป็นเรื่องประจำไปแล้ว,เย่ซิงเหอและเซี่ยหยุนหนิงยังคงบำเพ็ญผสานกาย,เพื่อเพิ่มพูนพลังอำนาจแห่งดวงดาราไม่หยุดยั้ง.
ภายใต้จิตสำนึกของเย่ซิงเหอเขารู้สึกราวกับว่าได้ยินเสียงดังออกมา,เป็นคาถาบางอย่างผ่านเข้ามาในจิตใจ,รวมตัวเป็นทักษะการต่อสู้บางอย่างขึ้นอย่างต่อเนื่อง.
ด้วยพลังอำนาจแห่งดวงดาราที่อยู่ภายในร่างกายนั้น,ได้ไหลเวียนไปรวมตัวกันขึ้นที่ฝ่ามือแปรเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงสีน้ำเงิน,จากนั้นก็เริ่มที่จะหมุนวนไปมาไม่หยุด,มันเริ่มที่จะเชื่อมต่อกับพลังหยินหยาง,ที่จุดศูนย์กลางของมันนั้นมีพลังอำนาจแห่งดวงดารารวมตัวอยู่.เป็นพลังอำนาจที่จะสามารถทำลายล้างได้ทุกๆสิ่ง,ด้วยพลังอำนาจดังกล่าวนั้นได้เกิดคลื่นกระแทกออกมาเป็นระลอกไม่หยุดหย่อน,เกิดเสียงเผาไหม้ดั่งสนั่นหวั่นไหวราวกับการเคลื่อนตัวของขุนเขา,เป็นการเคลื่อนของขุนเขาหลายลูกพร้อมกันเลยทีเดียว.
นี่มันคือทักษะการต่อสู้อะไรกัน?
ด้วยภาพที่บังเกิดขึ้นภายในจิตใจของเขานี้ทำให้เขานั้นเปลี่ยนเป็นตกตะลึง,เขารู้สึกราวกับว่าเปลวเพลิงนี้จะไม่สามารถนำเปลวเพลิงที่เขาเคยรู้จักมานั้นไปเปรียบเทียบกับมันได้เลย.
หลังจากที่เขานั้นเข้าใจลึกซึ้งในทักษะหมัดสังหารสวรรค์,เนตรทะลายสวรรค์,หมัดมังกรสวรรค์,และหมัดจิตวิญญาณสวรรค์,เย่ซิงเหอก็ได้รับทักษะกระบวนท่าที่
5
ระเบิดดาราอมฤต!
เป็นการทำใช้วัตถุๆชิ้นหนึ่งกลายเป็นระเบิดทำลายล้าง,ทว่าด้วยพลังระเบิดของมันนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก.
ด้วยทักษะต่อสู้นี้เขาได้เรียนรู้มาจากเสียงที่ดังออกมาจากศิลาจาลึกโบราณที่ส่งมอบมาให้เขา.
เป็นทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,มันสามารถที่จะเปลี่ยนให้ภูเขาลูกหนึ่งกลายเป็นทะเลพลังงานอันยิ่งใหญ่,ไม่เคยรู้เลยว่าเคยมีทักษะต่อสู้เช่นนี้ด้วย,เป็นเป็นทักษะที่ทรงพลังอย่างที่สุด.
เย่ซิงเหอค่อยๆเรียนรู้ทักษะต่อสู้ดังกล่าวอยู่ภายในใจอย่างไม่หยุดหย่อน.
ภายในถังน้ำตอนนี้เกิดไอน้ำเป็นสายพวกพุ่งขึ้นมาไม่หยุด,ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเย่ซิงเหอและเซี่ยหยุนหนิงกลายเป็นเมฆหมอกคละคลุ้งไปทั่วห้อง.
ในขณะเดียวกัน,บนต้นไม้ใหญ่อยู่ไม่ห่างไกลจากห้องของเย่ซิงเหอมากนัก,มีร่างๆหนึ่งสวมชุดสีขาวยืนนิ่งอย่างสุขุม,จ้องมองมายังที่ดังกล่าวอย่างเงียบงัน,แม้ว่าที่บริเวณนั้นจะค่อนข้างมืด,หากแต่ก็สามารถรับรู้ถึงตัวตนที่เพรียวบางดั่งรูปปั้นที่บรรจงสลักนั่นได้.
หล่อนชำเลืองมองมายังเย่ซิงเหอด้วยท่าทางสุขุมลุ่มลึก.
"วิชาบำเพ็ญพลังผสานกาย,มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม,ไปถึงระดับ
7 ดินแดนสวรรค์แล้วสินะ,หากแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะสามารถตัดผ่านไปยังอีกระดับได้เมื่อไหร่."หลังจากที่หล่อนจ้องมองอยู่นานเหมือนกัน,จากนั้นหล่อนก็หายไปในทันที,ด้วยความเร็วที่เปรียบเหมือนภูติผี,แทบจะไม่สามารถบอกได้เลยว่าเคยมีตัวตนของคนๆนี้อยู่ที่ตรงนั้น.
ตระกูลจันทราทมิฬ.
"เหลียงหยู,เจ้าบอกว่าที่ภูเขาอุดรทมิฬได้ค้นพบกับสมบัติมังกรสวรรค์ที่ถูกฝังไว้อย่างงั้นรึ?,นี่มันเป็นเรื่องจริงเท็จอย่างไร?"เหลียงเซี่ยงขมวดคิ้ว,กล่าวออกมาด้วยเสียงที่ขึงขัง.
"ข้าจะกล้าหลอกท่านประมุขได้อย่างไร.หลายร้อยปีมาแล้ว,เหล่าบรรพชนต่างก็ได้บอกกล่าวแล้วว่ามีสมบัติมังกรสวรรค์ที่ถูกฝังไว้อยู่ใกล้ๆกับนครบรรพชนสวรรค์,หากแต่ไม่มีใครรู้สถานที่ดังกล่าวได้อย่างชัดเจน,แต่แล้วไม่คิดเลยว่าพวกเขากับพบว่าภูเขาอุดรทมิฬนั้นมีความเป็นไปได้ที่สุด,จนกระทั่งเร็วๆนี้หลังจากได้ให้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทำการสำรวจดู,ในที่สุดก็สามารถจะระบุได้ว่ามันอยู่ที่ภูเขาทมิฬทางทิศเหนือบริเวณที่เรียกว่าพยัคฆ์มังกร,สมบัติมังกรสวรรค์นั้นได้ถึงซ่อนเอาไว้ที่หุบเขาทมิฬทางทิศเหนือจริงๆ,ด้วยข่าวที่แพร่ออกมานี้,ได้มีเหล่าตระกูลใต้อาณัติเป็นจำนวนมากได้เร่งรีบบึ่งไปยังหุบเขาดังกล่าว,หากว่าพวกเราไม่รีบล่ะก็,ข้าก็หวั่นเกรงว่าสมบัติมังกรสวรรค์นั้นอาจจะตกไปอยู่ในมือของคนอื่นก็เป็นได้!"เหลียงหยูยกมือคารวะไปด้านหน้าขณะพูด.
เหลียงเซี่ยงขมวดคิ้วไปมา,ปรากฏท่าทางลังเลเล็กน้อย,"ด้วยสถานการณ์ตอนนี้พวกเราอยู่ในช่วงสำคัญที่ต้องจัดการกับการต่อต้านของตระกูลขนนกสีฟ้า,หากพวกเราออกไปค้นหาสมบัติโบราณนั่น,หากว่าตระกูลจันทราทมิฬของพวกเราโดนลอบโจมตีล่ะ?"
อย่างไรก็ตาม,สมบัติมังกรสวรรค์ที่ตกทอดนั้น,ก็ดึงดูดใจเป็นอย่างมาก.
"ท่านประมุข,หากว่าพวกเราพบเข้ากับสมบัติมังกรสวรรค์ล่ะก็,แค่เพียงตระกูลขนนกสีฟ้านั้นจิ๊บจ้อยนัก,ไม่สิถึงแม้จะเป็นคฤหาสน์หัวหน้าองค์รักษ์ก็ตามที,พวกเราจะต้องหวั่นเกรงด้วยรึ?ด้วยความมั่งคั่งที่พวกเราจะได้รับจากมัน,พวกเราจะสามารถขยายกองกำลังเพิ่มขึ้นได้มากเท่าไหร่?พวกเราจะสามารถรับสมัครนักรบเพิ่มขึ้นได้อีกมากมายเท่าไหร่กันเล่า?เมื่อเวลานั้นมาถึง,จะมีใครที่จะสามารถคุกครามตระกูลจันทราทมิฬของพวกเราได้!"เหลียงหยูกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น.
เหลียงเซี่ยงจ้องมองไปยังร่างของเหลียงหยู,ภายในดวงตาของเขานั้นหรี่สายตาเล็กลง,เหลียงหยูนั้นเป็นเป็นทายาทสายตรงหาใช่ใครที่ใหน,เขาสามารถคาดเดาได้ว่าเหลียงหยูในตอนนี้คิดอะไร,ตำแหน่งประมุขในอนาคตจะต้องตกเป็นเขาแน่อยู่,ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างที่จะอุ่นใจไม่ระแวงในตัวของเหลียงหยูเลย.
เหลียงเซี่ยงกล่าวออกมาอย่างสุขุม,"เหลียงหยู,เจ้าคิดว่าพวกเราควรทำอย่างไรรึ?"
ที่มาจากhttp://lnmtl.com/novel/star-martial-god-technique
#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย
ขอบคุณครับ นึกแล้วว่า แหล่งทักษะการต่อสู้ของวิชาดวงดารา มาจาก ศิลาจารึกโบราณจริงๆ เหมือนเป็นบุคคลที่ถูกเลือกให้เชื่อมต่อภายในจิตใต้สำนึก อ่านตำราให้ตายก้อไม่เก่งเท่าฝึกจากศิลาจารึก
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุนคับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบท่าที่5พระเอก บอลเกงกิสินะ
ตอบลบเหลียงหยู เลวได้ใจจริงๆ
มันกำลังหลอกประมุขไปให้ชิงเห่อเชือด
ลบจะใช่หรอ ผมกลัวว่าเหลียงหยู จะหักหลังเยชิงเหอนะ
ลบขอบคุณคร้าบบบบบ..ลุ้นๆเนื้อเรื่องต่อไปๆยาววววว^^
ตอบลบเหลียงหยู ร้ายกาจจ
ตอบลบขอบคุนคับ
ตอบลบขอบคุณครับ..
ตอบลบขอบพระคุนครับบบ
ตอบลบขอบคุณคับ รอความมันอยู่คับ
ตอบลบดีจริงๆกลุ่มนี้นำเสนอเผยแพร่ผลงานแปลอย่างต่อเนื่องนับถือน้ำใจทีมกลุ่มนี้จนสุดใจเราผู้ตำต้อยด้อยศึกษาผลบุญจงบังเกิดผลดีต่อทุกๆท่านด้วยเทอญ
ตอบลบประมุขก็ไปตายงัยไม่น่าถาม 555 ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบหึหึหึ ถามถูกคนแล้วท่านประมุกข เสร็จโจ๋เหลียงหยูแล้ว
ตอบลบว่าแล้วว่าจะต้องมีท่าเรียก ฝนอุกาบาศ
ตอบลบขอบคุณครับผู้แปล รออ่านตอนมันโดนลอบโจมตีไม่ไหวแล้ว ท่าทางจะมัน
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบกรราบ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณมากๆๆครับทีมงาน \^.^/
ตอบลบขอบคุณมากๆๆครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ