วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Star Martial God Technique Chapter 142 Tian Jue sword

Star Martial God Technique Chapter 142 Tian Jue sword

นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่ 142 กระบี่เทียนเจว


บทที่ 142 กระบี่เทียนเจว



สายตาของหลิงหยูจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอ,หากว่าเย่ซิงเหอนั้นเป็นเพียงผู้เยาว์ของตระกูลธรรมดาจริงๆ,เขาเองก็หาได้นับเย่ซิงเหอให้มาอยู่ในสายตาไม่,อย่างไรก็ตามเขากลับรู้สึกว่า,วรยุทธ์ของเย่ซิงเหอนั้นดูไม่ได้อ่อนแอ,นอกจากนี้ยังมีสัตว์อสูรที่ทรงพลังในครอบครองซะอีก,สถานะของเย่ซิงเหอนั้น,อาจจะไม่ใช่ธรรมดาก็เป็นได้.


เพียงแต่ว่า,หลิงหยูเองไม่เคยได้ยินชื่อเสียงหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเย่ซิงเหอเลย.


ด้วยเขานั้นเป็นถึงสานุศิษย์เทพกระบี่ของอาณาจักรโจวที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้,หลิงหยูเองจึงนับว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลเป็นที่นับหน้าถือตาของอาณาจักรโจวแห่งนี้ด้วย,เขาเองจึงรู้จักผู้ฝึกยุทธ์เกือบทุกระดับจากระดับสุดยอดจนไปถึงระดับต่ำสุดเลย.



หากเพียงแต่ว่าเรื่องของเย่ซิงเหอแทบจะไม่ได้ยินเรื่องของเขา,ราวกับว่าอยู่คนล่ะอาณาจักรเลยทีเดียว.


อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นอย่างไร,เขาเป็นถึงสานุศิษย์ของเทพกระบี่,และตระกูลของเขานั้นยังมีเชื้อสายราชวงศ์โจว,เขาจึงไม่คิดว่า,จะมีใครที่จะสามารถนำมาเทียบกับตัวเขาได้,แต่หากเป็นตัวเย่ซิงเหอที่คอยตามตื้อเซี่ยหยุนหนิงอยู่ล่ะก็,เขาเองจะต้องทำให้เย่ซิงเหอได้เห็นดีกันอย่างแน่นอน.


เย่ซิงเหอถอนสายตากลับมาจากรูปปั้นหมาป่าสีขาว,จ้องมองไปยังสถานที่ไกลออกไปเป็นห้องโถงขนาดใหญ่,มีแสงส่องผ่านลอดเข้ามาจากด้านบน,เป็นแสงที่ส่องลงมาจากยอดเขาเรืองแสงสะท้อนไปมามากมายนับไม่ถ้วนเป็นเหมือนดั่งอัญมณีในตำนาน,ด้วยแสงที่หักเหสะท้อนระยิบระยับนั่น,ส่งผลที่ทั่วทั้งห้องโถงขนาดใหญ่แห่งนี้ปรากฏเป็นภาพบรรยากาศที่ดูวิจิตรตระการตาเป็นอย่างมาก.


ตำแหน่งด้านหน้าของห้องโถงขนาดใหญ่นี้,มีอาวุธลอยอยู่ด้านบนห้าชิ้น,ส่องแสองเพริศแพร้วไม่ธรรมดา.


เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์จากเหล่าตระกูลขุนนางชั้นสูงต่างจับจ้องมองตามด้วยตากลมโตแทบจนมันแทบจะหลุดออกจากเบ้าในทันที.


"สวรรค์,นั่นมันสมบัติล้ำค่าห้าชิ้น!"


"คว้ามันมาให้ได้สมบัติทั้งห้านั้นต้องเป็นของข้า!"ผู้นำตระกูลคนหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปของตระกูลขุนนางชั้นสูงตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.


วูซซ วูซซ วูซซ เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์อีกหลายคนได้มุ่งพุ่งตรงไปยังสมบัติทั้งห้า.


แทบจะในเวลาเดียวกัน,ผู้ฝึกยุทธ์มากหน้าหลายตาจากตระกูลขุนนางชั้นสูงได้มองเห็นสมบัติ,และพวกเขาก็ได้โฉบมาจากระยะไกลเพื่อพุ่งตรงไปยังสมบัติทั้งห้าอีกเป็นจำนวนมาก.


"ด้วยพลังที่แผ่ออกมาจากสมบัติทั้งห้านั่น,เป็นไปได้อย่างสูงที่จะมีระดับม่วง."หลิงหยูกล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นเยือบไปถึงหัวใจ.


สมบัติระดับม่วง?หัวใจของเย่ซิงเหอถึงกับสั่นไหวไปมา,เท่าที่ผ่านมานั้นเขาเองไม่เคยรู้เลยว่าสมบัตินั้นมีการแบ่งแยกระดับเอาไว้ด้วย.


"ระดับของสมบัตินั้นแยกออกเป็นระดับเขียว,ระดับน้ำเงิน,ระดับม่วง,ระดับทองและระดับศักดิ์สิทธิ์,เพียงแค่ระดับเขียวนั้นก็นับว่ามีน้อยมากแล้ว,ส่วนระดับน้ำเงินถือว่าเป็นของที่ยากจะเจอ,ยิ่งถ้าเป็นระดับม่วงที่เป็นอยู่นี้ช่างเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลย,หากว่าเพียงเริ่มต้นก็มีสมบัติระดับนี้แล้ว,ข้าเกรงว่าอาจจะมีระดับศักดิ์สิทธ์,อยุ่ที่ใหนสักแห่งเป็นแน่!"ดวงตาของฮูเหยี่ยนโจวเปล่งประกาย,ขณะกล่าวออกมา.


"กงล้อจันทราของเจ้า,เป็นสมบัติในระดับใดอย่างงั้นรึ?"เย่ซิงเหอที่ยืนอยู่ข้างๆเซี่ยหยุนหนิงได้สอบถามออกไป,"เป็นสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์,แบบนั้นใช่หรือไม่?"


"กงล้อจันทราของข้านั้นเป็นแค่เพียงระดับเขียวเท่านั้น,แต่ว่านะเพียงแค่นั้นในเมืองบรรพชนสวรรค์แห่งนี้ก็นับว่าเป็นสมบัติที่มีเพียงหนึ่งในสิบชิ้นได้เลยล่ะ,ส่วนระดับน้ำเงินนั้นมีอยู่น้อยมาก,ทั่วทั้งนครบรรพชนสวรรค์นั้นมีเพียงแค่สามชิ้นเท่านั้น,และระดับม่วงราชสำนักราชวงศ์ศักดิ์สิทธ์ได้มีการจัดระดับของมันไว้หนึ่งร้อยระดับ,ซึ่งในอาณาจักรโจวที่กว้างใหญ่นี้มีเพียงหนึ่งร้อยชิ้นเท่านั้น,เหนือกว่าระดับม่วง,ระดับทองมีแค่สามชิ้นเท่านั้นในอาณาจักรโจว,เป็นของนักรบระดับเทวะซึ่งเป็นสมบัติระดับประเทศ,ส่วนระดับศักดิ์สิทธิ์มีปรากฏแค่เพียงในตำนานเท่านั้น."เซี่ยหยุนหนิงอธิบาย


"เจ้าคิดว่าง้าวมังกรสวรรค์ของข้าน่าจะอยุ่ในระดับใด?"เย่ซิงเหอแอบที่จะสอบถามออกไป.


"ง้าวมังกรสวรรค์ของเจ้านั้นสามารถเปลี่ยนรูปร่างเวลาใดก็ได้,ควรจะเป็นสมบัติระดับม่วง."เซี่ยหยุนหนิงครุ่นคิดชั่วขณะก่อนที่จะกล่าวออกมา.


เย่ซิงเหอรู้สึกจะเข้าใจอะไรบางอย่างบ้างแล้ว,ไม่คาดคิดเลยว่าง้าวมังกรสวรรค์ของเขาจะทรงพลังเช่นนี้,สามารถเทียบได้กับหนึ่งร้อยชิ้นของราชสำนักราชวงศ์ศักดิ์สิทธ์ของอาณาจักรโจว,ซึ่งอาจจะคาดการณ์ได้ว่ามันไม่ได้จัดลำดับและบันทึกอยู่ในรายการของสมบัติของอาณาจักรแห่งนี้.


แม้ว่าจะเจอเข้ากับสมบัติระดับม่วงห้าชิ้นก็ตาม,ทว่าหลิงหยูและคนอื่นๆก็หาได้เริ่มเคลื่อนไหวอะไรไม่,พวกเขาเองอาจจะรอโอกาสที่เหมาะสมอยู่ก็เป็นได้.


ทันใดนั้น,ก็ได้ยินเสียงระเบิดดั่งสนั่นมาจากด้านหน้า,เปลวเพลิงอันร้อนแรงได้กลืนกินเผาไหม้กลุ่มผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ได้พุ่งเข้าไปหาสมบัติ,พวกเขาต่างส่งเสียงโหยหวนครวญครางออกมาอย่างน่าอนาถ,ถูกจัดการมอดไหม้ม้วยไปในทันที.


เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์ที่อยู่ด้านหลังและตามเข้าไปนั้นต่างเพ่งพิศแข็งค้าง,ไม่กล้าที่จะพุ่งเข้าไปต่อ.


"เป็นจริงตามที่ข้าได้คาดเอาไว้,สมบัติระดับม่วงห้าชิ้นนั้น,มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะได้มันมาครองอย่างง่ายๆ."ที่มุมปากของหลิงหยูเผยยิ้มออกมา,ขณะที่เขานั้นเดินตรงไปอีกฝั่ง,เพื่อที่จะสำรวจพื้นที่บริเวณรอบๆแห่งนี้.


บริเวณรอบๆนี้เต็มไปด้วยผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 7 และ 8 ดินแดนสวรรค์เป็นจำนวนมาก,พวกเขานั้นต่างก็ต้องการสมบัติระดับม่วงกันทั้งนั้น,นอกเหนือจากต้องระแวดระวังกับเหล่ากับดักแล้ว,พวกเขาจำต้องป้องกันเหล่าคนอื่นที่อาจจะเข้าโจมตีเพราะขัดแย้งได้ทุกเมื่อ.


สมบัติระดับม่วงทั้งห้านี้,ได้สร้างความขุ่นเคืองกับเหล่าผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้,แม้ว่าข้างหน้าจะมีกับดักก็ยังมีบางคนที่พยายามที่จะก้าวไปด้านหน้าอยู่,บางคนถูกเปลวไฟแผดเผา,บางคนถูกตรึงแน่นด้วยห่าธนูที่พุ่งออกมา,แม้แต่บางแห่งก็ยังมีพื้นตะปูโผล่ขึ้นมาจากพื้นเพื่อทิ่มแทงพวกเขาเหล่านั้น,ทว่าเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่หน้ามืดตามัวเหล่านี้ก็ยังพยายามที่จะเข้าใกล้สมบัติเหล่านั้นอย่างไม่หยุดยั้ง.



ครั้นมองไปยังสมบัติระดับม่วงด้านหน้าแล้ว,เซี่ยหยุนหนิงก็ถอยออกมากระซิบไปยังเย่ซิงเหอ,ด้วยเสียงที่เป็นกังวล,"ซิงเหอ,พวกเราเลิกคิดเถอะ,สมบัติระดับม่วงนั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการนักหรอก,ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ได้รับสิ่งใดมาก็ตามที,พวกเราควรจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยก่อนเป็นอันดับแรก!"


เย่ซิงเหอคิดอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า,"พวกเรารอดูสถานการณ์อยู่ด้านหลังต่อไป,หากว่าสามารถที่จะได้สมบัติระดับม่วงมาก็จะเป็นการดี,หากว่าไม่สามารถฉกฉวยได้,ก็ไม่จำเป็นที่จะดิ้นรนและแย่งชิงมัน!"


เหล่าคนแนวหน้าที่นำไปนั้น,ตอนนี้อยู่ห่างจากสมบัติระดับม่วงเข้าไปทุกขณะและมีอีกจำนวนมากที่ค่อยๆตามมาอย่างห่างๆ,ตอนนี้ยังเหลือสองผู้กล้าที่เข้าไปได้ใกล้ที่สุดเหลือเพียงสิบกว่าเมตรเท่านั้น.


สิ่งที่ทุกคนต่างรู้กันดีว่าที่อยู่ต่อหน้าพวกเขานั้นล้ำค่าขนาดใหน,แม้แต่สมบัติระดับเขียว,ยังมีเพียงบางคนเท่านั้นที่สามารถเป็นเจ้าของได้,ทว่าในตอนนี้ที่พวกเขาเห็นสมบัติระดับม่วงมากมายขนาดนี้,เป็นไปได้อย่างงั้นรึที่พวกเขาจะยั้บยั้งชั่งใจได้?


หลิงหยู,หานเฟิงและคนอื่นๆต่างก็เดินนำไปด้านหน้าโดยมีเย่ซิงเหอ,เซี่ยหยุนหนิง,เหล่ยหงและคนอื่นๆเดินรั้งท้าย.


เห็นแค่เพียงหลิงหยูในตอนนี้,ได้กุมมือไว้ที่กระบี่ยาวด้านหลังของเขา,เตรียมพร้อมที่จะชักออกจากฝังได้ทุกเมื่อ,ต้องไม่ลืมว่าสถานที่แห่งนี้ทุกหนทุกแห่งล้วนแล้วแต่แฝงไปด้วยอันตราย.


"อาวุธที่หลิงหยูสะพายอยู่ด้านหลังนั้น,ควรจะไม่ใช่อาวุธธรรมดาเป็นแน่,ใช่ใหม?"เย่ซิงเหอจ้องมายังเซี่ยหยุนหนิงก่อนที่จะถามออกมา.


"อืม,อาจารย์ของเขานั้นคือหนึ่งในเทพกระบี่ของอาณาจักรโจว,อาวุธที่เขามีนั้นจึงหาได้ธรรมดาไม่,ที่อยู่ในมือของเขานั้นถูกจัดอยู่ในลำดับรายการอาวุธเทวะของอาณาจักร,กระบี่เทียนเจว,ซึ่งมีลำดับที่ 29 นั่นเอง."เซี่ยหยุนหนิงกล่าว.


"กระบี่เทียนเจว?"เย่ซิงเหอนึกถึงคำพูดที่คลุมเคลือของซ่างกวนซูอาจที่กล่าวถึงเทียนเจวซึ่งเทียนเจวนั้นหมายถึงสิ่งใด,อาจจะเป็นคนๆหนึ่ง,หรือเป็นกระบี่กันแน่,"เจ้ารู้ที่มาของกระบี่เทียนเจวหรือไม่?"


"ข้าก็ไม่รู้ว่ากระบี่เทียนเจวนั้นมีความเป็นมาอย่างไร,ข้ารู้เพียงแค่ว่ากระบี่เทียนเจวนั้นเป็นสมบัติตกทอดของผู้ที่มีสายเลือดเทพกระบี่,ตามประวัติคนที่เป็นเจ้าของเดิมของกระบี่นั้นเคยถูกดักปล้นและถูกคนขโมยมันไป,ก่อนที่คนที่ปล้นนั้นจะถูกทำลายล้างจนสูญสิ้นตระกูล,กระบี่เล่มนี้จึงหวนคืนสู่สายเลือดเทพกระบี่อีกครั้ง,หลังจากนั้นทุกคนก็ไม่กล้าที่จะยุ่งเกี่ยวกับกระบี่เล่มนี้อีกเลย."เซี่ยงหยุนหนิงคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวมันออกมา


บางทีอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับซ่างกวนซูอาน,เป็นไปได้ว่าหล่อนจะรู้เรื่องราวหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับสายเลือดของเทพกระบี่อย่างงั้นรึ?


อย่างไรก็ตามข้อมูลที่มีในตอนนี้,ยังไม่สามารถอธิบายเรื่องทั้งหมดได้.


หลิงหยูหันหน้ากลับมา,มองเห็นเย่ซิงเหอและเซี่ยหยุนหนิงนั้นโน้มศีรษะเข้าหาเพื่อคุยกัน,ด้วยใบหน้าท่าทางเหมือนดั่งคนรัก,ส่งผลให้เขานั้นกำกระบี่แน่น,แทบจะชักมันออกมาจากฝักเลยทีเดียว.


"นายน้อยหลิง,ท่านยังจะทนได้อีกรึ?"หานเฟิงกระเซ้าหลิงหยู.


ใบหน้าของหลิงหยูนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชากระฟัดกระเฟียด,หากแต่ยังไม่พูดอะไรออกมา,ยังพยายามข่มท่าทางบนใบหน้าให้สงบเหมือนดังเดิม.


หานเฟิงไม่สามารถที่จะรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของหลิงหยูเลย,ซึ่งเขาเองก็ไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรออกไปมากนัก,จึงได้เดินตามหลังหลิงหยูไป.



 ชั่วขณะเดียวกันนั้น,เย่ซิงเหอรู้สึกราวกับว่าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าหวาดหวั่น,จนทำให้หัวใจของเขาถึงกับเย็นเยือบ,มันได้เตือนอันตรายกับเขาในทันที,ในเวลานี้จ้าวเขี้ยวขาวก็ไม่ต่างกัน,มันได้ครางออกมาด้วยเสียงโทนต่ำ,พร้อมกับยิ่งฟันระวังภัย.


ที่มาจากhttp://lnmtl.com/novel/star-martial-god-technique

#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย
Author(s)

https://www.facebook.com/shareebookandducumentfree/

25 ความคิดเห็น:

  1. ติดตามทุกวัน ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ เริ่มสนุกขึ้นอีกแล้ว (ปกติก็สนุกทุกตอน แปลได้ไหลลื่นมากครับ)

    ตอบลบ
  3. ฉี่ใส่มันเลยเขี้ยวขาว 555

    ตอบลบ
  4. คนรักเขากระหนุงกระหนิงกัน ไม่ทราบว่านายน้อยหลิงหยูจะชักดาบใส่ข้างั้นรึ กำซะแน่นเชียว ฮะ ฮา ฮ้าาาา...

    ตอบลบ
  5. ดาบอ่านว่า เทียนเจว่ นะ แปลดีแล้ว แต่ชื่อไม่ค่อยถูก

    ตอบลบ
  6. มีอะไรจะเกิดขึ้นนะ

    ตอบลบ
  7. ขอบคุนครับบ เจอชื่อกระบี่ทีนี่นึกไม่ออกเลยพูดตอนไหน5555

    ตอบลบ
  8. ตอนต่อไปมันส์แน่ ๆ

    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  9. ตาร้อนแล้วระวังด้วยเย่ชงเหอ

    ตอบลบ