Star Martial God Technique Chapter 149 Fusion treasure
นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่ 149 ผสานรวมสมบัติระดับม่วง
บทที่ 149 ผสานรวมสมบัติระดับม่วง
สายลมหนาวในค่ำคืนนี้รุนแรงเป็นอย่างมากมันได้พัดพาฝุ่นกระจายปกคลุมไปทั่วบริเวณรอบๆภูเขาอุดรทมิฬ,เศษเล็กเศษน้อยของใบไม้ถูกเป่าขึ้นมาด้วยลมดังกล่าว,ปลิวกระจายจนดูคล้ายเป็นทะเลของใบไม้พลัดล่องลอยพริ้วไหวเป็นระลอกๆคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ.
เหล่าตระกูลขุนนางส่วนใหญ่ได้เข้ามายังภูเขาอุดรทมิฬเพื่อที่จะค้นหาสมบัติมังกรสวรรค์,มีหลายคนที่สามารถเข้าไปยังตำหนักเทวะหลิงเทียนได้,บางคนก็ไม่สามารถที่หาแม้แต่ทางเข้าไป,พวกเขาจึงได้ต้องการที่จะออกจากภูเขาอุดรทมิฬ,ทว่าเมื่อพวกเขากลับออกมา,กลับได้พบมีทหารเป็นจำนวนมากขู่ขวัญจนทำให้พวกเขานั้นหายใจแทบไม่ออก.
กองกำลังทหารกว่า
150,000 นาย ที่อยู่รอบๆภูเขาอุดรทมิฬยั้วเยี้ยเบียดเสียดกันแน่นขนัด,ไม่สามารถแยกออกเลยว่าใครเป็นใคร,หรือเกิดสิ่งใดขึ้นพวกเขาจึงได้ก็เร่งรีบถอยกลับไปในภูเขาทันที.
ไม่ว่าทางใหนจะเข้าไปยังตำหนักเทียนหลิงหรือถอยออกไป,ล้วนแล้วแต่มีความเป็นตายที่ต้องเผชิญ.
เหล่าผู้ฝึกยุทธของตระกูลขุนนางชั้นสูงนั้นไม่กล้าที่จะประจันหน้ากับองค์รักษ์ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่แน่แท้,พวกเขาทำได้แค่เพียงถอยหลังกลับเข้าไป.
กองกำลังองค์รักษ์ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ถูกส่งออกมา
150,000
นาย,สมบัติมังกรสวรรค์ต้องตกเป็นของพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้,เหล่าตระกูลขุนนางต่างๆที่รับรู้เหตุการณ์เริ่มที่จะเศร้าใจ,พวกเขารู้ดีว่าเป็นเพียงไม้ซีกไม่สามารถเอาไปงัดไม้ซุงได้.
บรรยากาศด้านนอกดูคึกคัก,พวกเขาจำนวนมาก,ต่างเฝ้ามองอย่างใกล้ชิดว่าสมบัติมังกรสวรรค์จะปรากฏออกมาเมื่อใด.
เพราะว่าสมบัติมังกรสวรรค์ตกทอดนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก,ด้วยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ,มันเป็นสมบัติที่อาจจะสั่นสะเทือนไปทั้งอาณาจักรโจวที่ยิ่งใหญ่นี้เลยก็ว่าได้.
หากว่าพวกเขาสามารถได้รับสมบัติมังกรสวรรค์ตกทอดมาแล้วล่ะก็,การส่งมอบให้กับราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์,แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องได้รับความดีความชอบอันใหญ่หลวงอย่างแน่นอน,เมื่อสามารถทำได้เช่นนั้น,ทั้งอำนาจชื่อเสียงเงินทองจะหนีไปใหน,ดังนั้นหงกวงจึงไม่ลังเลเลยที่จะเคลื่อนย้ายกำลังพลจากเมืองบรรพชนสวรรค์,บรรพชนแจ่มจรัสและจากที่อื่นๆของกองกำลังราชวงศ์ศักดิ์จากเมืองที่อยู่ใกล้ๆให้เดินทางมา.
จะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะขัดขวางพวกเขาจากสมบัติมังกรสวรรค์ตกทอดเหล่านี้อย่างแน่นอน!
ในเวลาเดียวกัน,ข้างในตำหนักหลิงเทียน.
หลังจากที่เย่ซิงเหอเข้ามายังตำหนักเทวะหลิงเทียน,จากนั้นเขาก็สูญเสียการรับรู้ทิศทางในทันที,หลังจากที่เข้ามายังห้องโถงหลัก,เย่ซิงเหอได้ถูกแยกออกมาจากคนทุกๆคน,ไม่รู้เลยว่าเซี่ยหยุนหนิงนั้นอยู่ที่ใหน,เหล่ยหงและคนอื่นๆนั้นไปที่ใดกัน,ไม่สามารถรับรู้ได้แม้แต่จ้าวเขี้ยวขาวอยู่แห่งหนใด.
บริเวณรอบๆสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกำแพงหินตั้งเรียงรายกันไปทุกหนทุกแห่ง,บนกำแพงหินแต่ละแผ่นนั้นเต็มไปด้วยรูปสลักลึกลับอยู่เต็มไปหมด,มีบางแผ่นนั้นมีความสูงถึง
56 เมตร,ซ้ำยังเป็นหินผาทั้งแผ่น.
มีเส้นทางยาวออกไปหลากหลายทิศทาง,ไม่รู้เลยว่าควรจะเลือกเส้นใหน.
หลังจากเปิดใช้งานทักษะเนตรทะลายสวรรค์เพื่อจ้องมองไปยังเส้นทางทุกเส้น,เย่ซิงเหอก็พบว่าตำหนักหลิงเทียนแห่งนี้กลายเป็นเหมือนกับเขาวงกตขนาดใหญ่,แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าควรที่จะเลือกเส้นทางใหน,ทว่าเย่ซิงเหอก็สามารถกล่าวได้ว่า,เขาวงกตแห่งนี้ต้องมีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก.
เสียงโบราณเสียงหนึ่งดังขึ้นมา.
"ยินดีต้อนรับเข้าสู่ตำหนักหลิงเทียน,ตอนนี้มีผู้เข้ารับการทดสอบแล้ว
672 คน,ในมือของพวกเจ้าแต่ล่ะคนนั้น,ถึงจะมีผลึกเทวะหลิงเทียนก็ยังไร้ค่าอยู่,จงค้นหามันต่อสู้เพื่อแย่งชิงมันมา,ห้าวันหลังจากนี้,ใครก็ตามที่มีผลึกเทวะหลิงเทียนมากที่สุด,คนๆนั้นจะมีคุณสมบัติได้รับสมบัติตกทอดจากสุดยอดจักรพรรดิหลิงเทียน,และยังจะได้รับสมบัติมังกรสวรรค์ตกทอดไปอีกด้วย!"
คำพูดของผู้ดูแลตำหนักเทวะหลิงเทียนนี้,ได้ดังก้องกังวานไปทั่วตำหนักเทวะหลิงเทียน,มันได้สั่นสะท้านเข้าไปในหูของคนทุกๆคน.
ได้ยินคำพูดของผู้ดูแลตำหนักเทวะหลิงเทียนแล้ว,เย่ซิงเหอแอบคิดอยู่ว่าไม่น่าประหลาดใจเลยว่าสถานที่เช่นนี้ถึงได้เป็น,เส้นทางเขาวงกตเช่นนี้,นั่นก็เพื่อที่จะกระตุ้นให้เกิดการแย่งชิงผลึกเทวะเทียนหลิงกับคนอื่นๆสำหรับคนที่เต็มไปด้วยความโลภ,ดังนั้นทุกสถานที่ทุกหนทุกแห่งภายในสถานที่แห่งนี้,จากที่เคยปลอดภัยจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นสถานที่อันตรายเป็นอย่างมาก,ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วน่าหวาดเกรงเป็นอย่างมากที่มันจะทำให้ทุกคนเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์.
การไล่ล่าสังหารอย่างบ้าคลั่งกำลังจะเริ่มในไม่ช้านี้!
หากว่าห้าวันหลังจากนี้,ตามที่ผู้ดูแลของตำหนักเทวะหลิงเทียนได้ประกาศไว้,จะส่งมอบสิ่งตกทอดของสุดยอดจักรพรรดิหลิงเทียนและสมบัติมังกรสวรรค์ตกทอดให้,แต่ถึงอย่างงั้นท้ายที่สุดแล้วก็จะยิ่งมีแต่คนตายมากมายขึ้นไปอีกซะมากกว่า.
หรือว่านี่มันจะเป็นเพียงแค่การหลอกลวงหรือไม่?
ด้วยเรื่องต่างที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการหลอกลวงเพื่อที่จะให้คนที่เขามาภายในตำหนักเทวะหลิงเทียนเกิดการตายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!
ยิ่งต้องการมากเท่าใดก็จะยิ่งได้รับความผิดหวังมากเท่านั้น,แล้วก็จะยิ่งได้รับความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด,ในเวลานี้,เย่ซิงเหอเองก็ไม่มีเวลาที่จะคิดใคร่ครวญเรื่องต่างๆได้แล้วตอนนี้,เพราะเขาเริ่มที่จะได้ยินเสียง,เสียงฝีเท้าที่วิ่งพล่านพร้อมกับตรงมายังที่ตรงนี้,เขาเร่งรีบลบตัวตนพร้อมกับหาที่หลบซ่อนทันที.
ไม่ว่าอย่างไร,เย่ซิงเหอเองก็ไม่ต้องการสังหารคนจำนวนมาก,อย่างไรก็ตามถึงเขาจะไม่สังหารคนอื่น,แต่ว่าคนอื่นก็ไม่ได้คิดเช่นเขา,ดังนั้นเย่ซิงเหอก็ต้องหลบเลี่ยงและป้องกันตัวเองก่อน.
เขาได้ซ่อนอยู่หลังกำแพลง,ปิดบังตัวเองให้เงียบที่สุด,เสียงฝีเท้าค่อยๆดังขึ้นๆชั่วครู่ก่อนที่จะค่อยๆเบาลงและหายไปจนไม่สามารถรับรู้ได้
การที่จะหาใครสักคนในเขาวงกตขนาดใหญ่นี้เป็นเรื่องที่ลำบากเป็นอย่างมาก,เขาควรที่จะรอคอยให้จ้าวเขี้ยวขาวมาหาเขาก่อน,ในเวลาตอนนี้,การศึกษาสมบัติระดับม่วงที่เขาเพิ่งได้รับมาน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า!
เย่ซิงเหอเริ่มนั่งสมาธิ,เขาได้นำปลอกแขนศิลาเทวะออกมาศึกษา,ด้วยมีพลังอำนาจแห่งดวงดาราเจื่อๆอยู่ในนั้น,เขาได้แผ่พุ่งพลังลงไปในปลอกแขนศิลาเทวะในทันที,ชั่วระยะเวลาไม่นานหลังจากนั้น,ก็เห็นปลอกแขนศิลาเทวะเริ่มที่จะเข้มขึ้น,จากนั้นก็เริ่มส่องแสงวับวาบเปล่งรัศมีออกมา.
พลังอำนาจแห่งดวงดาราของเย่ซิงเหอตรวจสอบปลอกแขนศิลาเทวะซึ่งมันมีพลังที่ลึกลับซ่อนเอาไว้อยู่,พลังอำนาจนี้ควรจะเป็นพลังที่เรียกว่าดวงจิตวิญญาณของปลอกแขนศิลาเทวะชิ้นนี้,จากความรู้สึกที่สัมผัสได้เขาบอกได้ว่าดวงจิตวิญญาณของปลอกแขนศิลาเทวะชิ้นนี้จะมีขนาดเล็กและอ่อนแอกว่าของดวงจิตวิญญาณของง้าวมังกรเหมันต์อยู่มากทีเดียว.
ด้วยการแผ่พุ่งพลังอำนาจแห่งดวงดาราผ่านเขาไปในดวงจิตวิญญาณดวงนี้,ทำให้มันเริ่มที่จะดูดซับพลังอำนาจแห่งดวงดาราของเขาอย่างบ้าคลั่ง,พร้อมกันนี้จิตวิญญาณของเย่ซิงเหอก็เริ่มหลอมรวมผูกมัดมันอย่างลึกลับ.
ตราประทับมังกรที่แขนขวาของเขา,เริ่มที่จะถูกกระตุ้นพวยพุ่งออกมา,พลังของมันที่กระจายออกมานั้นดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
เย่ซิงเหอถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว,ด้วยดวงจิตวิญญาณที่แตกต่างกันสองดวง,เริ่มที่จะต่อต้านกันและกันเหมือนดั่งที่เซี่ยหยุนหนิงกล่าวหรือไม่?
ดวงจิตวิญญาณของง้าวมังกรสวรรค์นั้นได้ปราบปรามควบคุมดวงจิตของปลอกแขนศิลาเทวะอย่างรวดเร็ว,มันได้ทำให้ดวงจิตของปลอกแขนศิลาเทวะได้แต่สั่นเทาและหวาดกลัว.
แม้ว่าทั้งสองจะเป็นสมบัติระดับม่วงเหมือนกัน,เป็นไปได้ว่าปลอกแขนศิลาเทวะและดวงจิตของง้าวมังกรเหมันต์นั้นราวกับว่าอยู่คนล่ะระดับกันทีเดียว.
ด้วยการควบคุมยับยั้งกันอยู่เมื่อสักครู่.ดวงจิตของง้าวมังกรเหมันต์ก็กลับคืนสู่สภาพเดิม,มันได้เคลื่อนไหวกลับไปยังตราประดับที่แขนขวาเหมือนเดิม,จากพลังกดดันอย่างรุนแรงหนักหน่วงเมื่อสักครู่ก็กลับเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น.
เย่ซิงเหอได้แต่เงียบอยู่สักพัก,เขาไม่คาดคิดเลยว่าดวงจิตวิญญาณของง้าวมังกรสวรรค์นั้นจะแข็งแกร่งอย่างไม่คาดคิด.มันมีพลังเพียงพอที่จะบดขยี้ดวงจิตของปลอกแขนศิลาเทวะอย่างราบคาบเลย.
เป็นเรื่องที่โชคดีแล้วที่พวกมันอยู่ในระดับที่ต่างกัน,ไม่เช่นนั้นเกิดปัญหาแน่นอน.
ความรู้สึกตอนนี้เขารู้สึกเบาใจอย่างมากกับดวงจิตวิญญาณทั้งสอง,เย่ซิงเหอได้ทำการผสานรวมดวงจิตวิญญาณของปลอกแขนศิลาเทวะต่อไป,ชั่วระยะเวลาต่อมา,เย่ซิงเหอก็สามารถผูกเจตจำนงเข้ากับปลอกแขนศิลาเทวะได้อย่างสมบูรณ์.
วูซซ,ปลอกแขนศิลาะเทวะได้หายซ่อนเร้นเข้าไปในแขนขวาของเขา.
เย่ซิงเหอได้ส่งเจตจำนงไปที่ปลอกแขนศิลาเทวะให้ปล่อยพลังออกมารวมกับอากาศเกิดเป็นชั้นป้องกันบางๆ,ไม่เคยรู้เลยว่าปลอกแขนศิลาเทวะจะสามารถสร้างเกราะป้องกันที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมเช่นนี้,รู้สึกราวกับว่ามันแข็งแรงเทียบเท่ากับเนื้อของเหล็กไหลทีเดียว,เป็นการยากที่จะเปรียบความแข็งแกร่งของมันออกมา,มันได้กลายเป็นชั้นผิวหนังอีกชั้นหนึ่งที่ปกคลุมไปทั่วร่างกายเลย,หากว่าเกิดการต่อสู้,ด้วยการมีปลอกแขนศิลาเทวะคอยปกป้องกันร่างกายเช่นนี้,จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ได้มากมายอย่างแน่นอน.
ปลอกแขนระดับม่วงนั้น,แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับ
8 ดินแดนสวรรค์,ยังไม่สามารถที่จะทำลายมันได้โดยง่าย.
เย่ซิงเหอได้นำชุดเกราะศิลาเทวะออกมา,พลางแผ่พุ่งพลังอำนาจแห่งดวงดาราตรวจสอบ,เขาพบว่าดวงจิตวิญญาณของชุดเกราะศิลาเทวะต่อสู้นี้,มีดวงจิตวิญญาณที่แทบจะไม่ต่างกันกับปลอกแขนศิลาเทวะเลย,เย่ซิงเหอจึงได้ผสานรวมกับชุดเกราะศิลาด้วยวิธีเดิม.
ชุดเกราะศิลาเทวะและปลอกแขนศิลาเทวะดวงจิตของทั้งสองต่างยอมรับซึ่งกันและกัน,มันจึงไม่ได้ต่อต้านกันและกันนั่นเอง,ยิ่งไปกว่านั้นมันยังไม่สามารถเทียบได้กับพลังของง้าวมังกรสวรรค์อีกด้วย,ดังนั้นแล้วดวงจิตมังกรสวรรค์ที่น่ายำเกรงนั้นจึงได้กดข่มพวกมัน,ด้วยพลังอำนาจที่ลึกล้ำของมัน,เย่ซิงเหอจึงสามารถผสานเข้ากับสมบัติระดับม่วง,ไม่คาดคิดเลยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะต่างกันกับที่เซี่ยหยุนหนิงบอกกล่าวมาคนล่ะอย่างเลยทีเดียว,ดูเหมือนว่าดวงจิตวิญญาณของสมบัติทั้งสามนั้น,จะสมดุลเป็นอย่างมาก.
หลังจากที่เย่ซิงเหอผสานเข้ากับสมบัติระดับม่วงแล้วมันก็หายเข้าไปในร่างกายของเขาเหมือนกันไม่ทิ้งร่องรอยให้เห็น,เมื่อเกิดการต่อสู้ก็จะปรากฏพลังออกมาให้ใช้งานได้ในทันที,เป็นความสามารถที่คาดไม่ถึงจริงๆ.
จากการผสานรวมเข้ากับสมบัติระดับม่วงสี่ชิ้นแล้ว,ความแข็งแกร่งของเย่ซิงเหอดูเหมือนว่าจะยกระดับขึ้นมาเป็นอย่างมากในทันที.
ที่มาจากhttp://lnmtl.com/novel/star-martial-god-technique
#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย
ขอบคุนคับ
ตอบลบขอบคุงค้าบ
ตอบลบขอบคุณคับ กำลังมันเลยคับ อีกตอนได้มั้ยคับ อย่างนี้พี่เย่สู้กับระดับ8 สบายๆเลย หึหึ
ตอบลบขอบคุณคีบ
ตอบลบขอบคุณมากๆวันละตอนก็ซึ้งน้ำใจมากๆๆ
ตอบลบขอบคุณมาก ๆ ครับ
ตอบลบเล่นแรร์ไอเทม ช่วยยกระดับทางอ้อม โหดจริงๆ พี่เย่ ขอบคุณผู้แปลมากครับ รอมาทั้งวันเลย
ตอบลบจบเร็วมาก. ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบเหมาหมด 4 ชิ้น ว่าล่ะ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบเริ่มเติมทรูแล้ว เก่งสุดๆแน่นอน ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบขอ 2 นะ ขอบคุณครับ (ไม่ค่อยโลภเลยเรา) 555
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบวันนี้อยากขอ 2
ตอบลบจีเอ็มดรอปของให้เฉย ขอบคุนครับบบ
ตอบลบขออีกตอนนะครับ
ตอบลบขอบคุณครับผม
ตอบลบหลังจากได้ชุดเกราะ ก็พร้อมแล้วสำหรับสงครามแย่งชิงผลึก
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบสมบัติคงเป็นของพระเอกทั้งหมดชินะ เหมือนเนียลี่
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบสวมไอเทมแลัว พลังกายเพื่มขึ้น100% พลังโจมตีเพื่มขึ้น100% พลังฟื่นฟูเพื่มขึ้น100% ความเร็วเพื่มขึ้น100%
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบโกงดีแท้ เยี่ยม ใส่ชุดเซ็ตแล้ว พลังเพิ่มอีกเพียบ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณมากๆครับ
ตอบลบเรื่องนี้มันเก็บของกันยังไงอะครับ สมบัตรม่วง 4 ชิ้นพระเอกมันหิ้วมาหรอ
ตอบลบตอนนี้เหมือนตอนที่ลูกพี่เนี่ยหลี่ ไปเอาสมบัติในตำหนักเลย ล่อให้คนฆ่ากันเอง
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ