วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Star Martial God Technique Chapter 146 Spirit phoenix

Star Martial God Technique Chapter 146 Spirit phoenix

นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่ 146 หงส์เพลิงวิญญาณ


บทที่ 146 จิตวิญญาณหงส์เพลิง 



เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลชั้นสูงอีกหลายตระกูลที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังต่างวิ่งพล่านเพื่อที่จะค้นหาผลึกเทวะหลิงเทียนให้เจอหลังจากที่ผู้ดูแลตำหนักหลิงเทียนได้บอกกล่าวว่ายังคงเหลือผลึกเทวะหลิงเทียนอีก 300 ชิ้น,เป็นความจริงที่เขาจะรอช้าไม่ได้เพราะเริ่มที่จะมีคนเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆจากเดิมแล้ว.


"พวกเราจะต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด!"หลิงหยูหันหน้ากลับไปยังด้านหลังซึ่งมองเห็นคนอื่นๆต่างวุ่นวายร้อนรน,พวกเขาจำนวนมากต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน,หากว่าไม่เร่งรีบแล้วล่ะก็,หากว่าพวกเขาสามารถไล่ตามเข้ามาได้ล่ะก็,เหล่าผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากมายขนาดนั้นอาจจะเข้ารุมล้อมหน้าล้อมหลังเพื่อดักชิงหรือทำร้ายพวกเขาได้.



เย่ซิงเหอและกลุ่มของพวกเขาได้มุ่งตรงเข้าไปสู่ทางเดินด้านหน้าของห้องโถงหลักอย่างรวดเร็ว.


ในเวลานี้,สมบัติระดับม่วงทั้งห้าที่อยู่ข้างหน้าห้องโถงหลัก,อยู่ในระยะสายตาของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว.


สมบัติทั้งห้านั้นประกอบด้วย,กระบี่ยาว,ปลอกแขน,เกราะไหล่,ชุดเกาะต่อสู้,และยังมีปลอกขาอีกด้วย.


สมบัติระดับม่วงแต่ละชิ้นนั้น,ปกคลุมไปด้วยลวดลายอักขระอันลึกลับทุกชิ้น,ส่องแสงวับวาว,เป็นที่จับตาเป็นอย่างมาก.


"ตามข้อตกลงของพวกเรา,สมบัติระดับม่วงทั้งห้านี้ต้องตกเป็นของข้า!"เย่ซิงเหอกล่าวออกมาอย่างซาบซึ้ง.


หานเฟิงรู้สึกไม่ต้องการยอมรับเป็นอย่างยิ่ง,มันอยู่ใกล้แค่เอื้อมสำหรับสมบัติระดับม่วงทั้งห้า,เขาสามารถที่จะฉกฉวยมันมาได้อย่างชัดแจ้ง,หากแต่ต้องส่งมอบให้กับคนอื่น,ทำให้เขานั้นหดหู่ใจเป็นอย่างมาก.


"เป็นคนอื่นไม่มีทางกล้ากล่าวเช่นนี้ข้านั้นได้ทำการตรวจสอบร่างกายของเขาแล้ว,ให้เขาหลอมรวมเข้ากับสมบัติระดับม่วงไปก่อน,ปกติแล้วทุกคนล้วนแล้วแต่หลอมรวมกับสมบัติระดับม่วงได้ไม่กี่ชิ้นเท่านั้นล่ะ,การหลอมรวมเข้ากับสมบัติระดับม่วงมากกว่าสองนั้น,แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ง่ายมากแต่มันจะเป็นเรื่องยากยิ่งนักที่จะควบคุมได้และนั่นอาจเป็นเหตุให้จิตวิญญาณฉีกขาดออกมาทีเดียว,เขาได้สมบัติระดับม่วงไปหลายชิ้น,ให้เขารวมมัน,เช่นนั้นแล้วค่อยวางแผนอีกที!"หลิงหยูกล่าวกับหานเฟิงด้วยเสียงเบาๆอยู่อีกด้านหนึ่ง.


ได้ยินคำพูดของหลิงหยู,ดวงตาของหานเฟิงถึงกับเปล่งประกาย,นายน้อยหลิงนั้นมีแผนเช่นนี้มาตั้งแต่แรกแล้วนั่นเอง.


ด้วยองค์หญิงอยู่ด้วย,นายน้อยหลิงจึงยังไม่ทำสิ่งใดกับเย่ซิงเหอ,ใครจะรู้ล่ะเมื่อองค์หญิงไม่อยู่ล่ะก็?รอองค์หญิงไม่อยู่ก่อนเถอะ,เย่ซิงเหอต้องได้รับความทรมานอย่างอเนจอนาถแน่.


หลิงหยูยกมือคาระวะไปด้านหน้าก่อนกล่าวออกมาว่า,"เกี่ยวกับข้อตกลงก่อนหน้านี้,สมบัติระดับม่วงทั้งห้านั้นเป็นของน้องเย่แล้ว,น้องเย่จะทำเช่นใดก็ขึ้นอยู่กับน้องเย่แล้ว!


หานเฟิงจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอ,พร้อมกับแค่นเสียงออกมา,"คาดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่คนๆเดียวต้องการครอบครองสมบัติระดับม่วงทั้งห้า,ช่างหน้าด้าน,และเต็มไปด้วยความโลภซะจริง,ไม่กลัวว่าสวรรค์จะลงโทษรึไร!อย่างไรก็เถอะ,พวกเราทุกคนต่างก็ได้ตกลงกันแล้วนี,ในเมื่อรับปากแล้ว,สมบัติระดับม่วงทั้งห้ายกให้เจ้าคนเดียวก็ได้!"


ได้ยินคำพูดของหานเฟิง,เย่ซิงเหอจ้องมองออกไปอย่างเย็นชา,พร้อมกับชำเลืองไปที่เขาและกล่าวอย่างสงบว่า"พวกเราได้ยืนยันเรื่องนี้กันก่อนแล้วไม่ใช่รึ,สมบัติระดับม่วงทั้งห้านี้จะมอบพวกมันให้แก่ข้า,ข้าได้มันมาด้วยสามารถ,หากว่าเจ้านั้นมีความสามารถพอที่จะหยิบฉวยมันมาได้,ก็ให้เป็นของเจ้า,อย่างนี้ล่ะเป็นอย่างไร?"


หลังจากที่มาถึงสถานที่แห่งนี้แล้ว,เย่ซิงเหอค้นพบว่าสมบัติระดับม่วงทั้งห้าที่ลอยอยู่ข้างหน้านี้,ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสัญลักษณ์ใยแมงมุม,จำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากที่กับแสงสัญลักษณ์ใยแมงมุมเป็นอย่างมาก.


ทุกๆคนนั้นต่างก็มองไม่เห็น,มีเพียงเขาที่มีทักษะเนตรทะลายสวรรค์เท่านั้น,ที่สามารถมองเห็นความลับสัญลักษณ์แสงเหล่านี้.


อย่างน้อยที่สุดก็ระบุได้ว่า,หลิงหยูและหานเฟิงไม่มีทักษะนี้อย่างแน่นอน


หากว่านำมันออกมาแล้วไปกระตุ้นสัญลักษณ์แสงดังกล่าวล่ะก็,หลิงหยูและหานเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย.


"เจ้า,ให้เป็นองข้า,ถ้าข้าสามารถนำมันออกมาได้รึ?"หานเฟิงแค่นเสียงอย่างเย็นชา.

"เป็นไปตามนั้นแน่นอน!"เย่ซิงเหอกล่าวออกมาทันควัน.


ขณะนั้นเพียงแค่หานเฟิงต้องการที่จะหยิบฉวยสมบัติระดับม่วงทั้งห้า,หลิงหยูก็ดึงหานเฟิงกลับมาทันทีพร้อมกับกล่าวออกไปว่า,"น้องเย่,เชิญเจ้าได้เลย,พวกเรานั้นไม่สามารถทำเช่นนั้น,สมบัติระดับม่วงทั้งห้านั้นได้ตกลงกันแล้วให้น้องเย่หยิบฉวยมันไปแต่เพียงผู้เดียว "


"นายน้อยหลิง"หานเฟิงรู้สึกระวนกระวาย,ในเมื่อเย่ซิงเหอกล่าวเช่นนั้นเขาจึงคิดว่าทำไมเขาไม่ลองพยายามลองดูล่ะ?


"หากเจ้าไม่ต้องการตาย,อย่าได้ทำอะไรนั่นล่ะเป็นการดี,แม้ว่าข้าไม่รู้แต่ที่แห่งนี้มันดูไม่น่าไว้วางใจ,ข้าสามารถบอกได้เลยว่าบริเวณรอบๆสมบัติระดับม่วงทั้งห้านั้นเต็มไปด้วยกับดักแน่ๆ."หลิงหยูกล่าวออกมา.



ด้วยกับดักที่มากมายบริเวณรอบๆห้องโถง,ไม่มีใครรู้เลยว่าเย่ซิงเหอนั้นได้ใช้วิธีการใด,หากแต่มีเพียงแค่เย่ซิงเหอเท่านั้นที่สามารถบอกเรื่องดังกล่าวได้,ดังนั้นเย่ซิงเหอจึงได้ดูมั่นอกมั่นใจเป็นอย่างมาก,เขามั่นใจว่าหานเฟิงไม่มีทางที่จะหยิบฉวยสมบัติระดับม่วงทั้งห้าได้,แค่เหตุผลเท่านี้ก็เป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว.


หลังจากที่หานเฟิงได้ยินคำพูดดังกล่าว,หัวใจของเขาถึงกับเย็นเยือบเลยทีเดียว,เมื่อเขาเริ่มทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆแล้ว,เหงื่ออันเย็นยะเยือกของเขาก็ไหลออกมาทันที.

"สมบัติระดับม่วงทั้งห้า,หากว่าข้าหยิบมันมาแล้ว,แน่นอนว่าข้านั้นไม่แบ่งให้เจ้าแน่,ด้วยสิ่งที่ข้าสามารถหยิบมาด้วยตัวเอง,ไม่จำเป็นที่ต้องแบ่งใคร!"เย่ซิงเหอจ้องมองไปยังหานเฟิง,กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชาไปที่เขาซึ่งเขาเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า,หลิงหยูและหานเฟิงนั้นลึกๆไม่พอใจเขาอย่างรุนแรง.


ได้ยินคำพูดของเย่ซิงเหอแล้ว,เหล่ยหงถึงกับต้องยกนิ้วให้กับเย่ซิงเหอเลย,เขาในตอนนี้ยิ่งรู้สึกชื่นชมในตัวของเย่ซิงเหอเป็นอย่างมาก,พวกขวางโลกควรที่จะเจอคนจริงเช่นนี้.


เซี่ยหยุนหนิงก็ยิ้มออกมาเหมือนกัน,จ้องมองไปยังแผ่นหลังของเย่ซิงเหอ.ภายในดวงตาอันกลมโตนั้นเปื้อนไปด้วยร่องรอยความชื่นชม,ในความเห็นของหล่อนนั้น,เย่ซิงเหอถือว่าจัดการปัญหาออกมาดี,และนี่ก็ถือเป็นการสั่งสอนหานเฟิงเล็กน้อยด้วย.


ที่อยู่ต่อหน้าเย่ซิงเหอตอนที่เขาจ้องมองครั้งแรกนั้น,กระบี่ยาวซึ่งเป็นอาวุธระดับม่วง,มีสัญลักษณ์แสงที่อยู่ใกล้เคียงรอบๆกระบี่เต็มไปหมด,ป้องกันเอาเอาไว้อย่างดี.


เมื่อใดก็ตามหากไปสัมผัสกับสัญลักษณ์แสงเข้าล่ะก็,จะเป็นการเหนี่ยวไกให้กับดักทำงานเป็นแน่.


เย่ซิงเหอค่อยๆรวมพลังอำนาจแห่งดวงดาราไปที่มือขวา,พร้อมทั้งปล่อยมันออกไปให้ลอยอยู่บนกระบี่ยาวสมบัติระดับม่วง,พร้อมกับดึงมันออกมาทีละนิดๆ


ด้วยสมาธิที่ตั้งมั่น,เขาได้จดจ้องไปยังกระบี่ยาวสมบัติระดับม่วงไม่วางตา,การเคลื่อนไหวของมันแต่ล่ะครั้งนั้นค่อยๆถอนออกมาอย่างช้าๆและละเอียดที่สุด,เขาได้ให้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก,ด้วยใบหน้าที่จริงจังและมุ่งมั่นนั่น,ทำให้เซี่ยหยุนหนิงและคนอื่นๆต่างก็ไม่กล้าแม้แต่ส่งเสียงด้วยเกรงว่าจะไปรบกวนเย่ซิงเหอ.


หลิงหยูถึงกับขมวดคิ้วแน่น,หานเฟิงเองก็จ้องมองไม่วางตาไปที่เย่ซิงเหอเหมือนกัน.


แม้ว่าสายตาของพวกเขาจะมองไม่เห็นสิ่งใด,เห็นเพียงกระบี่ยาวสมบัติระดับม่วงนั้นแค่ลอยอยู่บนอากาศ,อย่างไรก็ตามบริเวณรอบๆอันว่างเปล่าที่ไม่มีสิ่งกีดขวางนั้น,ด้วยการเห็นท่าทางของเย่ซิงเหอแล้ว,พวกเขาก็สามารถคาดเดาได้ว่าบนอากาศที่ว่างเปล่านั้น,แอบซ่อนเจตจำนงแห่งการสังหารไว้อย่างมากมายนับไม่ถ้วน



หานเฟิงแอบที่จะโล่งใจ,ก่อนนี้เขาช่างโชคดีนัก,ที่ได้นายน้อยหลิงช่วยเอาไว้,หากว่าเขาเร่งรีบเข้าไปหยิบฉวยสมบัติเหล่านั้นแล้วอาจเป็นไปได้ว่าเขาจะต้องตายอย่างอนาถแน่แท้.


เย่ซิงเหอค่อยๆเคลื่อนกระบี่ด้านหน้าให้ค่อยๆลอดผ่านออกมาจากสัญลักษณ์แสงที่มีอยู่เต็มไปหมด.


เพราะว่าทุกรอบบริเวณของกระบี่ยาวสมบัติระดับม่วงนั้น,เต็มไปด้วยสัญลักษณ์แสงมากมาย,มันพร้อมที่จะทำงานได้ทุกเวลา,ดังนั้นในการดึงกระบี่ยาวออกมาจึงเต็มไปด้วยความลำบากเป็นอย่างมาก.


เขาได้รวมรวมพลังทั้งร่างกายซึ่งเปี่ยมไปด้วยสมาธิ,ไม่กล้าเลยแม้แต่จะคิดวอกแวกสักวินาทีเดียว.


ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังเย่ซิงเหอ,ไม่กล้าแม้แต่จะเปล่งเสียงออกมา.


หานเฟิงเองก็ด้วยเหมือนกัน,หากว่าเย่ซิงเหอไม่สามารถที่จะนำสมบัติระดับม่วงเหล่านั้นออกมาได้,เขาเองก็จะไร้ซึ่งโอกาสที่จะฉกชิงมันมาจากเงื้อมมือของเย่ซิงเหอได้,ดังนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจที่จะรอคอยอย่างอดทน.

ผ่านไปแล้วราวๆสิบห้านาที,เย่ซิงเหอค่อยๆดึงกระบี่ยาวระดับม่วงออกมา,เขานั้นทุ่มเทกำลังไปทั้งหมด.


ด้วยกระบี่ยาวสมบัติระดับม่วงชิ้นนี้,ทันที่ที่เขาสามารถดึงมันออกมาภายนอกอาณาเขตได้,มันได้เปล่งประกายพลังปราณทมิฬอันลึกลับออกมาไม่หยุด,ทั่วทั้งฝักกระบี่ปกคลุมไปด้วยลวดลายสัตว์อสูรมากมาย.        


หลังจากที่ดึงกระบี่ออกมาได้แล้วนั้น,เกิดคลื่นแสงอันโชติช่วงส่งผ่านออกมาเป็นระลอก,ด้วยพลังที่ถูกส่งออกมานี้เป็นเหมือนดั่งเปลวเพลิงที่บริสุทธ์เป็นอย่างมากของผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แห่งเปลวเพลิง.


บริเวณรอบๆคมกระบี่นั้น,มีรังสีเปล่งประกายแสงออกมารอบๆ,มากมายรุนแรงด้วยสีแดงเพลิง,บนตัวกระบี่ยังมีรูปแบบอักขระโบราณสลักไว้หลายรูปแบบ,แม้ว่าจะเป็นรูปสลักอักขระที่ดูค่อนข้างแปลกตา,ทว่าเมื่อเพ่งพินิจแล้ว,มันควรที่จะเป็นอักขระรูปหงส์เพลิงแฝดฝังอยู่.



ราวกับว่ามันมีพลังแฝงของจิตวิญญาณหงเพลิงอยู่ด้วย,ตราผนึกมังกรที่แขนขวาของเย่ซิงเหอ,ดูเหมือนว่าจะตอบสนองต่อพลังของมันอย่างรุนแรง,มันได้ส่งพลังความหนาวเย็นออกมาปะทะ,ราวกับว่ามันต้องการยับยั้งพลังอำนาจของกระบี่หงส์เพลิงวิญญาณเล่มนี้.


ที่มาจากhttp://lnmtl.com/novel/star-martial-god-technique

#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย
Author(s)

https://www.facebook.com/shareebookandducumentfree/

41 ความคิดเห็น:

  1. มังกรน้ำแข็ง กับนกไฟ หักล้างกันสินะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากครับ ลุ้นทุกวันครับ

    ตอบลบ
  3. เดาว่าหยุนหนิงได้ไปแน่นอนแบบนี้

    ตอบลบ
  4. กระบี่ของซุยหยุน ปลอกแขนของหยุนหนิง เดา....

    ตอบลบ
  5. สนุกขึ้นเรื่อยๆ ขอบคุณผู้แปลกับผู้ลมากๆครับ

    ตอบลบ
  6. ขวาน้ำแข็ง ซ้าย เวท เอ้อ ตามสูตร หยินหยางผสาน

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณคับ วันละ1ตอนก็แหล่มเลย

    ตอบลบ
  8. สุดยอดเลยครับ ขอบคุณนะครับแอดมิน

    ตอบลบ
  9. ลงแขนซ้ายไปเลยพวก ข้ารู้ว่าเจ้าทำได้55

    ตอบลบ
  10. สงสัยต้องเป็นของกำนัลให้นางเอกเป็นแน่แท้กระบี่เพลิงเล่มนี้

    ตอบลบ
  11. โอ้ยยยลุ้นนี่พึ่งชื้นแรกหน้าอีก 4 ชิ้นไอกระบี่ห่าเหวมันจะทำอะไรนะ

    ตอบลบ
  12. ของชิงเหอชิ้นไหนน้า ขอบคุณมากๆคับ

    ตอบลบ
  13. พระเอกคงให้ของแก่ทุกคนเพื่อสร้างมิตร ส่วนตนเองเอาเคลดวิชาหรือดวงจิต

    ตอบลบ
  14. ใครจะได้มันไปละครัช ขอบคุนครับบ

    ตอบลบ
  15. มังกร หงส์เพลิง ต่อไป พยัคฆ์ขาว เต่าคะนองคงมา ได้ดูลูกข่างเบย์เบลดกันมันส์ละงานนี้

    ตอบลบ
  16. กระบี่ของซุยหยุนชัวๆ

    ตอบลบ
  17. เผลอกลั้นหายใจ กลัวไปรบกวนสมาธิพี่เย่ ฮ่าๆๆ
    ไม่แน่ อาจจะให้สาวๆไปสินะ น้องอันๆ น่ะจะเหมาะ

    ตอบลบ
  18. 5ชิ้น ก็5ตอนเป็นอย่างน้อย ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  19. หงส์เพลิงแฝด พี่เย่กับพี่เย่ว์เหมือนกันจริงๆ

    ตอบลบ