Star Martial God Technique Chapter 219 Courting death

Star Martial God Technique Chapter 219 Courting death

นิยาย วิทยายุทธ์เทพการต่อสู้แห่งดวงดารา ตอนที่ 219 แส่หาความตาย

บทที่ 219 แส่หาความตาย

เพราะว่าเวลานี้โรงประมูลเทียนหยวนได้เปิดการประมูลขึ้นที่เมืองเสวียนอวิ๋น,เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์มากมายต่างก็เร่งรีบเดินทางไปยังเมืองเสวียนอวิ๋นมากมายล้นหลาม.

ความขัดแย้งกระทบกระทั่งเองก็เกิดขึ้นบางเล็กน้อยอันเนื่องมากจากคนที่มานั้นหลากหลายเมืองและแว่นแคว้นนั่นเอง,เมืองเสวียนอวิ๋นนั้นเป็นโรงประมูลการค้าที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก,ภายในเมืองจึงมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข็มแข็ง,จึงไม่มีผู้ใดจะสร้างปัญหาขึ้นภายในเมือง,หากใครกล้าสร้างปัญหาภายในเมืองล่ะก็,จะต้องได้รับการจับกุมจากกลุ่มอำนาจที่ควบคุมการประมูลในครั้งนี้อย่างแน่นอน.

ถึงแม้ว่าผู้เยี่ยมยุทธ์หลายคนจะมาจากตระกูลทรงอิทธิพล,ด้วยจำต้องรักษาความสัมพันธ์ก็ต้องรักษาระเบียบข้อบังคับที่มากมายของเมืองเสวียนอวิ๋นเช่นกัน.

เพราะว่าโรงประมูลเทียนหยวนนั้นจัดการประมูลสิ่งของทีมีมูลค่าทุกๆสามปี,เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์มากหน้าหลายตาจากหลากหลายกลุ่มอิทธิพลจึงได้หลั่งไหลมายังเมืองเสวียนอวิ๋นมากมาย.

ที่ด้านหน้าประตูเมืองตอนนี้คับคลั่งไปด้วยเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งขี่ม้าตลอดจนสัตว์อสูรหลากหลายชนิดรอคอยเข้าเมืองแห่งนี้,จ้าวเขี้ยวขาวก็เป็นหนึ่งในนั้นที่มีเย่ซิงเหอและซ่างกวนซูอานกำลังขี่มันอยู่,การปรากฏตัวของมันตอนนี้ก็ไม่ได้สร้างความประหลาดใจของคนอื่นสักเท่าใด.

"ผู้เยี่ยมยุทธ์ทุกคนที่เดินทางมายังเมืองเสวียนอวิ๋น,พวกเขาจะไม่สามารถต่อสู้กันได้ในเมือง,ด้วยตระกูลราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ของต้าโจวควบคุมอยู่,ทุกคนเองต่างก็ไม่กล้าที่จะยุแหย่เหล่าหอแสดงสินค้าภายในเมืองอย่างแน่นอน,ทว่าภายนอกเมืองเสวียนอวิ๋นนั้นก็ไม่แน่."ซ่างกวนซูอานจ้องมองไปยังเย่ซิงเหอ"ด้วยภายในเมืองเสวียนอวิ๋นนั้น,หากใครสร้างข้อโต้แย้งขึ้นล่ะก็,ส่วนมากแล้วพวกเขาก็จะจัดการกันที่นอกเมืองเสวียนอวิ๋นนี้ล่ะ."

ขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมที่จะเข้าไปในเมืองนั้น,ก็เห็นรถเทียมม้าที่หรูหราเป็นอย่างมากเคลื่อนตัวเขามาใกล้ๆ,โดยด้านหลังนั้นมีองค์รักษ์สวมชุดสีทองตามมาเป็นจำนวนมากทีเดียว.

"นั่นเป็นขบวนของสำนักเทพกระบี่!"ซ่างกวนซูอานจ้องมองไปที่เย่ซิงเหอขณะพูด.

ขบวนของสำนักเทพกระบี่?

เย่ซิงเหอจ้องมองไปยังขบวนดังกล่าวก่อนที่จะเห็นใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนม้าขนาดสูงใหญ่ด้านหลังรถเทียมม้า,ประกายแสงบนใบหน้าที่แสดงออกมาถึงความอหังการยโสโอหัง,ไม่ใช่ใครที่ใหนเป็นหลิงหยูไม่ใช่รึ?

หลิงหยูได้ตามรถเทียมม้ามา,ไม่รู้เลยว่าเป็นใครกันที่นั่งอยู่ภายในรถเทียมม้านั่น.

สายตาของหลิงหยูกวาดไปทั่ว,ก่อนที่เขาจะเตรียมตัวเข้าไปในเมืองสายตาของเขาก็มองเห็นเย่ซิงเหอและซ่างกวนซูอานพร้อมจะเข้าไปในเมืองแล้ว,สายตาที่หรี่ลงมีประกายแสงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารอย่างรุนแรง,หากว่าเย่ซิงเหอเข้าไปในเมืองเสวียนอวิ๋นแล้ว,โอกาสที่เขาจะเอาคืนคงไม่มีอย่างแน่นอน.

หลิงหยูได้กระชับม้าอย่างรุนแรง,พุ่งตรงออกไปขวางทางจ้าวเขี้ยวขาวเอาไว้,สายตาของเขานั้นจ้องมองลงไปยังร่างของเย่ซิงเหอและซ่างกวนซูอาน,ทันใดนั้นก็เผยออกมาให้เห็นถึงความเหยียดหยันมากมายนับไม่ถ้วน.

"เป็นศัตรูที่ไม่อยากจะพบเจอจริงๆ,เย่ซิงเหอ,ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเราจะเจอกันที่แห่งนี้."หลิงหยูแค่นเสียงอย่างเหยียดหยัน,จ้องมองตาเขม็งไปยังร่างของเย่ซิงเหอ.

เย่ซิงเหอจ้องมองไปยังเหลียงหยูก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างเย็นชา,"เป็นหมาข้างทางก็หลบไปให้พ้น.!"เย่ซิงเหอเองไม่อยากจะยุ่งวุ่นวายกับหลิงหยูในที่แห่งนี้เลย,เพราะเกรงว่าตัวตนของซ่างกวนซูอานนั้นจะถูกเปิดเผย,และหากว่าเขาเข้าไปในเมืองแล้ว,บางทีอาจจะกลายเป็นจุดสนใจของคนอื่นเข้าอีกด้วย.

สายตาของหลิงหยูนั้นจ้องมองไปยังซ่างกวนซูอานที่อยู่ด้านหน้า,เผยยิ้มที่มุมปากเผยออกมาถึงความดูแคลน,"ใครล่ะนั่น,ชายสองคนเบียดเสียงนั่งคู่กันมา,ไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะมีรสนิยมเช่นนี้ด้วย."

ซ่างกวนซูอานขมวดคิ้วเล็กน้อย,หากแต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว,ด้วยธรรมชาติของหล่อนที่ไม่แยแสต่อสิ่งใด,ไม่ได้ให้ความสนใจในตัวของหลิงหยูอยู่แล้ว.

"ข้าล่ะขยะแขยงที่จะจัดการสวะเช่นเจ้าแล้ว,รีบไสหัวไปซะ!"เย่ซิงเหอแค่นเสียงอย่างโกรธเกรี้ยว.

หลิงหยูขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,แค่นเสียงอันเย็นชาออกมาเช่นกัน,"เย่ซิงเหอ,ก่อนหน้านี้ข้าปล่อยให้เจ้าหนีไป,วันนี้ได้เจอะกับเจ้าอีกครั้ง,พวกเรามาชำระบัญชีก่อนหน้านี้ให้มันเสร็จสิ้นเลยดีกว่า!"

"หลิงหยู,สมองของเจ้านี่เลอะเลือนหรือย่างไร,ก่อนหน้านี้เป็นเจ้าเองไม่ใช่รึที่วิ่งหนีหางจุกตูดนะ!"เย่ซิงเหอเบ้ปาก,หลิงหยูนี่ช่างอวดดีอย่างหน้าไม่อายจริงๆ.

"เขาเป็นใครกัน?"ซ่างกวนซูอานได้สอบถาม.

"เขาเป็นสานานุศิษย์ของสำนักเทพกระบี่,เต็มไปด้วยความละโมบและหวาดเกรงต่อความตาย,ซ้ำยังเป็นวายร้ายหน้าไม่อายอีกด้วย,เมื่อครั้งเหตุการณ์ตำหนักหลิงเทียน,เขาได้ล่ะทิ้งพรรคพวกหนีตายคนเอาตัวรอดคนเดียว,ช่างเป็นคนที่น่าขยะแขยงยิ่งนัก!"เย่ซิงเหอแค่นเสียงว่ากล่าวในความหน้าไม่อายของหลิงหยู.

ในเวลาเดียวกันนั้นเหล่าคนที่อยู่รอบๆบริเวณดังกล่าวได้ยินคำพูดของเย่ซิงเหอ,ต่างก็โห่ร้องเสียงดัง.

"เย่ซิงเหอ,เจ้า,คนอย่างเจ้าบังอาจดูหมิ่นสายเลือดเทพกระบี่อย่างพวกเรา,ใครกันละโมบและหวาดเกรงความตาย,เจ้าบังอาจสร้างความเท็จ!วันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนเจ้าให้รู้จักสำนึกแน่นอน!"หลิงหยุแค่นเสียงอย่างเย็นชา,พร้อมกับชักกระบี่เทียนเจวออกมาพร้อมเข้าปะทะในทันที.

"โอ้ว,นั่นมันกระบี่เทียนเจว!"

"ไม่คาดคิดเลยว่าสานุศิษย์ของเทพกระบี่ก็เดินทางมาในครั้งนี้ด้วย!"

"นี่นับว่าเป็นการแสดงใหญ่เลยไม่ใช่รึ,ที่จะได้เห็นความสามารถสานุศิษย์เทพกระบี่?"เหล่าคนที่อยู่รอบๆต่างส่งเสียงอื้ออึง.

คนบริเวณรอบๆเริ่มที่จะรับรู้ถึงความขัดแย้งได้,หลิงอยูแค่นเสียงอย่างอวดดี,กระบี่เทียนเจว ที่อยู่ในมือนั้นชี้ตรงไปยังเย่ซิงเหอ,พลังกล่าวออกมาอย่างขึงขัง,"เย่ซิงเหอ,หากเจ้าแน่จริงก็ลงมาสู้กับข้า,ข้าจะไม่ถือสาเอาความก็ได้,ไม่เช่นนั้นแล้ว,ข้าจะต้องทำให้เจ้าต้องอับอายตายไปยังที่แห่งนี้แน่นอน!"

"หลิงหยู,เกิดสิ่งใดขึ้นรึ?"ทันใดนั้นเสียงที่ยั่วยวนเต็มไปด้วยเสน่ห์ก็ดังออกมาจากภายในรถเทียมม้า.

เสียงที่อ่อนระทวยนี้อ่อนหวานจนหาเปรียบไม่ได้นี้,ไม่อยากเชื่อว่ามันจะสามารถทำให้กระดูกของคนที่ได้สดับฟังถึงกับไร้ซึ่งแรงต่อต้านอ่อนทรุดเลยทีเดียว.

เหล่าคนทุกคนที่อยู่รอบๆต่างก็อดไม่ได้เลยที่จะจ้องมองผ่านเข้าไปในรถเทียมม้าคันดังกล่าว.

"ท่านอา,เจ้าสามัญชนนี้,บังอาจดูหมิ่นสำนักเทพกระบี่ของพวกเราต่อหน้าคนจำนวนมาก,หลานรู้สึกเหลือทนกับการกระทำดังกล่าว,จึงจะสั่งสอนเจ้าเด็กน้อยนี้ซะหน่อย!"หลิงหยูกล่าวออกมากับคนที่อยู่ภายในรถเทียมม้า.

ด้วยเรื่องดังกล่าวนี้,เหล่าคนใช้จึงได้เปิดผ้าม่านของรถเทียมม้าออกมาเพื่อสอบถาม,ภายในห้องโดยสารนั้นมีหญิงสาวนางหนึ่งที่สวยงามจนหาใครเปรียบได้,ด้วยปรากฏต่อหน้าสายตาของคนทั่วไปแล้ว,เสน่ห์ของนางนั้นสะกดทุกคนด้วยความงามที่ไร้ขอบ,เสือผ้าสีแดงที่เลอค่านั้นเป็นชุดคลุมยาว,หล่อนยื่นหน้าออกมาอย่างช้าๆ,เพียงปรากฏออกมาให้เห็นเพียงบ่าตลอดจนร่องอกที่ปิดไม่มิดนั่น,เผยออกมาให้เห็นอย่างคลุมเคลือ,ดวงตาที่แดงฉานราวกับวิหกอมตะกวาดสายตามองไปยังคนทุกคน,ก่อนที่จะไปหยุดที่ร่างของเย่ซิงเหอและซ่างกวนซูอาน.

"เป็นอาวุโสที่สามของสำนักเทพกระบี่,ปราชญ์กระบี่หมิงหยู!หล่อนเดินทางมาในครั้งนี้คาดไม่ถึงยิ่งนัก!"

"นั่นมันปราชญ์กระบี่หมิงหยูไม่ใช่รึ?"

เหล่าคนที่อยู่รอบๆต่างสั่นสะท้าน,เร่งรีบถอนสายตากลับมา,พวกเขาแทบจะไม่กล้าจ้องมองตรงไปยังข้างในรถเทียมม้านั่นอีกครั้ง.

ปราชญ์กระบี่หมิงหยูนั้นเป็นหนึ่งในสานุศิษย์เทพกระบี่,เป็นตัวตนระดับตำนาน,ที่ดุร้ายเผด็จการ,ด้วยรูปร่างภายนอกที่ดูเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์น่าหลงไหล,ดวงตาคู่นั้นของหล่อนเพียงแค่จ้องมองมาก็พร้อมที่จะดูดวิญญาณคนอื่นให้ออกมาจากร่างแล้ว,ทว่าเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ต้องตายไปด้วยปราชญ์กระบี่หมิงหยูนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วนเลย.

ปราชญ์กระบี่หมิงหยูนั้นเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับ 9 ดินแดนสวรรค์

สายตาของเย่ซิงเหอหรี่ลง,กล่าวต่อซ่างกวนซูอานด้วยเสียงอันแผ่วเบา,"พวกเราจะมีปัญหา,หรือไม่หากว่าจัดการพวกเขาที่ขวางทางไม่ให้พวกเราเข้าไปในเมือง?"

ซ่างกวนซูอานขยับคิ้วที่ละเอียดของหล่อนไปมาเล็กน้อย,ความเป็นจริงแล้วหล่อนเองก็ไม่ต้องการที่จะแสดงทักษะความสามารถใดๆออกมา,หากว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีระดับ 9 ดินแดนสวรรค์ขั้นปลายแล้วล่ะก็,ด้วยความสามารถของเย่ซิงเหอตอนนี้คงไม่สามารถต่อกรได้แน่,หากว่าหล่อนลงมือ,ย่อมจะเป็นที่สังเกตต่อคนทั่วไปแน่!

เห็นเย่ซิงเหอและซ่างกวนซูอานลังเลใจบนใบหน้า,ท่าทางของหลิงหยูตอนนี้ยิ่งจองหองมากกว่าเดิม,เขาดูถูกดูหมิ่นอยู่เต็มหัวใจ,ด้วยตัวเขานั้นเดินทางมากับอาของเขาเอง,เย่ซิงเหอจะต้องตายวันนี้อย่างแน่นอน.

"เย่ซิงเหอ,หากหวาดกลัวล่ะก็เพียงแค่คลานเข่าเข้ามาคำนับข้า,ข้าจะปล่อยเจ้าไปในวันนี้ก็ได้!"หลิงหยูหัวเราะเสียงดัง,ใบหน้าเต็มไปด้วยความอหังการ.

"ไสหัวไปให้พ้น!"เย่ซิงเหอได้ตะคอกอย่างเย็นชาออกไปด้วยความโกรธ,หลิงหยูคนนี้คิดจริงๆรึว่าเขานั้นกำลังหวาดกลัวอยู่?ช่างไร้ซึ่งสมองซะจริงๆ!

"เจ้าแส่หาความตายซะแล้ว!"หลิงหยูจ้องมองเขม็งอย่างเย็นชา.

ที่มาจากhttp://lnmtl.com/novel/star-martial-god-technique

#วิทยายุทธ์เทพแห่งการต่อสู้แห่งดวงดารา#Star Martial God Technique Light Novel#นิยายแปลไทย

Author(s)

Mad Snail
"ทากพิศดาร"(ฟาเปียว เตอะ วอหนิว) ผู้ประพันธ์

https://www.facebook.com/shareebookandducumentfree/